คนไร้บ้านมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการแพร่ระบาดของโควิดทำให้ปัญหานี้รุนแรงยิ่งขึ้น เฉพาะในเมืองแมนเชสเตอร์ รัฐนิวแฮมป์เชียร์ มีคนไร้บ้านอาศัยอยู่ในพื้นที่สาธารณะเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว
New Hampshire Coalition to End Homelessness (NHCEH) ได้จัดทำรายงานประจำปีที่ละเอียดโดยนำข้อมูลจากทั่วประเทศมาใช้ในการเขียนเป็นปีแรก
ข้อมูลในรายงานนี้แสดงให้เห็นว่าคนไร้บ้านประกอบด้วยคนดำและคนลาติโน่อย่างไม่ได้สัดส่วน คนผิวสีและคนดำนับเป็นร้อยละ 2.7 ของประชากร แต่กลับเป็นประชากรถึงร้อยละ 10.2 ของคนไร้บ้าน เช่นเดียวกับชาวลาติโน่ที่นับเป็นร้อยละ 2.8 ของประชากร แต่นับเป็นร้อยละ 10.2 ของคนไร้บ้าน
ผู้อำนวยการ NHCEH กล่าวว่าภาวะโรคระบาดทำให้ภาวะไร้บ้านรุนแรงขึ้น แต่ปัจจัยอื่นๆ นั้นก่อให้เกิดปัญหานี้อยู่ก่อนแล้ว เช่น ราคาที่อยู่อาศัยที่สูงเกินไป (คนจำนวนมากต้องจ่ายเงินกับค่าที่พักไปเกินครึ่งของรายได้) การว่างงาน และอัตราการขับไล่ผู้คนออกจากที่พัก
ในเดือนมกราคมก่อนการระบาดของไวรัสโควิด 19 พบว่าประชากรคนไร้บ้านเพิ่มขึ้นร้อยละ 21 (293 คน) ในปี 2019 และในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม 2020 มีคนไร้บ้านถึง 4,451 คน
ข้อสังเกตอย่างหนึ่งคือคนไร้บ้านส่วนใหญ่ไม่ได้อาศัยในเมืองแมนเชสเตอร์ คนไร้บ้านประมาณร้อยละ 39 (1,739 คน) อาศัยอยู่ในเมืองแมนเชสเตอร์ และมีคนไร้บ้านอาศัยอยู่ในพื้นที่สาธารณะกว่าร้อยละ 60 ที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในตัวเมือง เป็นที่เข้าใจว่าคนไร้บ้านที่อาศัยอยู่ในที่สาธารณะจะอพยพเข้ามาอยู่ในเมือง เนื่องจากมีเครือข่ายและศูนย์ช่วยเหลือคนไร้บ้านอยู่มาก แต่ข้อมูลแสดงให้เห็นว่าคนไร้บ้านส่วนใหญ่อยู่ในนอกเมืองและไม่สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือเหล่านี้ได้
รายงานนี้เสนอให้ลงทุนกองทุน Affordable Housing Fund ของรัฐ เพราะในห้าปีที่ผ่านมา อัตราห้องว่างคงที่อยู่ที่ร้อยละ 1.8 แสดงให้เห็นว่า ปัจจุบันมีที่พักอาศัยไม่เพียงพอ และเรียกร้องให้เพิ่มงบของ Bureau of Housing Support เป็น 9 ล้านเหรียญสหรัฐตามที่ได้ขอไป นอกจากนี้ต้องการให้สนับสนุนนโยบายของสมาชิกสภาเกี่ยวกับความเสถียรภาพเชิงที่อยู่อาศัย (housing stability) ซึ่งวางเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวเพื่อเพิ่มเครือข่ายช่วยเหลือและที่อยู่อาศัย
รายงานยังเสนอว่าการลงทุนสร้างที่พักอาศัยแบบ supportive housing ไม่ถึง 600 ยูนิต นั้นเพียงพอที่จะหยุดภาวะไร้บ้านเรื้อรัง (chronic homelessness)
ในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ คนที่ตกอยู่ภาวะไร้บ้านเรื้อรังมีประมาณ 580 คน คนเหล่านี้มักไม่ใช้บริการศูนย์พักพิงคนไร้บ้าน ไม่ยอมรับความช่วยเหลือต่างๆ และอาศัยอยู่ในแคมป์คนไร้บ้าน
จำนวนแคมป์คนไร้บ้านในเมืองแมนเชสเตอร์มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ในช่วงกลางปี จำนวนแคมป์เพิ่มขึ้นจาก 31 เป็น 35 แคมป์ ซึ่งมีประชากรประมาณ 268 คน การสำรวจในเดือนพฤศจิกายน พบแคมป์ 32 แคมป์ และประชากรในแคมป์ประมาณ 484 คน ซึ่งจำนวนคนที่เพิ่มขึ้นอาจเกิดจากการที่แคมป์เล็กๆ รวมตัวกัน
อย่างไรก็ตาม คนไร้บ้านมีที่พักพิงเพิ่มขึ้นจากช่วงกลางปี ศูนย์พักพิงครอบครัวสามแห่งรายงานว่ามีผู้เข้าพักเกือบเต็ม ศูนย์พักพิงใหญ่ของแมนเชสเตอร์เพิ่มเตียงนอน ทำให้จุคนได้ประมาณ 190 คน และอดีตสถานีตำรวจถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นศูนย์พักพิงที่จุคนได้อีกประมาณ 50 คน
ผู้อำนวยการของ NHCEH กล่าวทิ้งท้ายว่า สังคมต้องกล้าเผชิญหน้ากับภาวะไร้บ้านเพื่อให้สามารถแก้ปัญหานี้ได้เสียที