หนัง 6 เรื่องที่จะช่วยให้คุณเข้าใจคนไร้บ้านมากขึ้น

ผู้เขียน: อลิษา ลิ้มไพบูลย์

เวลานึกภาพคนไร้บ้าน คุณมองเห็นอะไร?

ภาพจำเกี่ยวกับคนไร้บ้านมักจะเป็นแค่จุดดำมืดในสังคมที่เราหันหน้าหนี เมื่อเราไม่เคยตั้งใจมอง ภาพจำที่เรามีต่อคนไร้บ้านเลยกลายเป็นแค่ภาพหยาบๆ เช่นขอทานริมถนนหรือคนที่นอนบนสะพานลอย ไม่มีที่มาที่ไป ไม่มีเบื้องหลัง ไม่มีเรื่องราว ทั้งๆ ที่ที่จริงแล้วนิยามของคำว่าไร้บ้านนั้นกว้างกว่านั้น และลึกกว่านั้นมาก

วันนี้ Penguinhomelesss ขอชวนทุกคนมา ‘ตั้งใจมอง’ คนไร้บ้านด้วยการผ่านการดูหนัง หนังที่มีตัวละครนำเป็นเด็กทั้ง 6 เรื่องนี้ ดูเผินๆ แล้วอาจเป็นหนังประเภทก้าวผ่านวัย (coming of age) ธรรมดาทั่วไป แต่เมื่อสังเกตจะพบว่าชีวิตของเด็กๆ ในหนังเหล่านี้ล้วนเสนอแง่มุมที่แตกต่างกันเกี่ยวกับ ‘ความไร้บ้าน’ พวกเขาต่างมีเหตุผล มีความสุข ความทุกข์ และการดิ้นรนต่อสู้ของพวกเขาเอง

มาเข้าใจชีวิตของพวกเขา และขยายภาพจำเรื่องคนไร้บ้านไปด้วยกันนะ

Grave of the Fireflies

เรื่องของพี่น้องสองคนในญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่กลายเป็นเด็กกำพร้าหลังจากการทิ้งระเบิดในเมืองคร่าชีวิตแม่ของพวกเขา ส่วนพ่อก็ไปรบอยู่ที่ไหนไม่รู้ หนังอนิเมชันสุดโด่งดังของสตูดิโอจิบลิเรื่องนี้พาเราติดตามชีวิตของเด็กน้อยทั้งสองที่ต้องโยกย้ายไปตามที่ต่างๆ จากตอนแรกที่อยู่กับน้า แต่ความไม่ลงรอยกันทำให้พวกเขาตัดสินใจหาที่อยู่ และหาอาหารกินเอง เด็กชายอายุ 14 กับน้องสาวอายุ 4 ขวบต้องดูแลตัวเองท่ามกลางสภาวะสงคราม โดยที่มีความสุขในชีวิตเป็นลูกอมในกล่องเหล็กกับแสงระยิบของหิ่งห้อยในยามค่ำคืน

สงครามเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เด็กจำนวนมากต้องไร้บ้าน โดยเฉพาะกรณีที่พ่อแม่เสียชีวิต และแม้จะมีผู้ปกครองที่ไม่ใช่พ่อแม่ แต่ในสภาวะที่อาหารขาดแคลนและเศรษฐกิจเลวร้าย การต้องรับเลี้ยงคนเพิ่มในบ้านอาจเป็นเรื่องคอขาดบาดตายได้ นอกจากนั้นหนังยังเล่าให้เห็นว่า การหาที่อยู่และหาอาหารกินนั้นไม่ง่ายเลยเมื่อเราเป็นเด็กน้อยที่ไม่มีรายรับ เด็กๆ ที่ควรได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วนเพื่อเติบโตกลับต้องอดอยากและกินอะไรก็ตามที่หาได้เพื่อเอาชีวิตรอด

https://www.imdb.com/title/tt0095327

Florida Project

ฟลอริดาคือเมืองแห่งดิสนีย์แลนด์ เมืองแห่งความฝัน แต่ภายใต้เงาของความฝันนั้นคือแม่ลูกคู่หนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่ในโมเต็ลถูกๆ ในหนังเรื่องนี้ที่กำกับโดยฌอน เบเกอร์ ผู้โด่งดังจาก Tangerine (2015) ติดตามเด็กหญิงมูนีอายุ 6 ขวบกับเพื่อนที่พักอยู่ในห้องข้างๆ ไปตามส่วนต่างๆ ของโรงแรมและเมืองฟลอริดา พวกเขาเป็นเด็กแสบที่หาเรื่องสนุกให้ตัวเองทำได้ทั้งวัน ชีวิตที่ดูเผินๆ อาจมีความสุขนี้ซ่อนความยากลำบากเอาไว้ ชีวิตของพวกเขาอยู่กันแบบกึ่งๆ ผิดกฎหมาย ทั้งแม่ที่มีการงานที่ไม่มั่นคงจากการขโมยของมาขาย และโรงแรมที่อาศัยอยู่ก็ไม่รู้ว่าจะจ่ายค่าเช่าไหวไปถึงเมื่อไร และจะโดนให้ย้ายออกเมื่อไร

แม้จะไม่ได้ดูเหมือนว่า ‘ไร้บ้าน’ เพราะเด็กก็ยังอยู่กับแม่และมีหลังคาคุ้มหัว แต่ที่อยู่นี้ไม่ได้เป็นของพวกเขาจริงๆ และสภาวะไร้บ้านก็หายใจรดต้นคออยู่เสมอ เด็กน้อยต้องกินอาหารเหลือจากร้านฟาสต์ฟู้ดที่เพื่อนของแม่ทำงานอยู่ บางครั้งก็ต้องไปทำงานขายของผิดกฎหมายกับแม่เพื่อให้คนสงสารและซื้อของมากขึ้น เวลาเล่นอยู่กับเพื่อนก็ถูกคนมาด้อมๆ มองๆ มีโอกาสถูกลักพาตัวได้ง่าย และจุดที่โดดเด่นของหนังคือการแสดงให้เห็นถึงปัญหาว่า แม้แม่ลูกจะรักกันมากแค่ไหน หากแม่ดูแลลูกไม่ได้ ก็มีโอกาสที่เจ้าหน้าที่รัฐจะมาพรากลูกไปเข้าระบบที่คุ้มครองดูแล แต่ก็ทำให้เด็กไร้ครอบครัวและไร้บ้านอย่างสมบูรณ์

https://www.imdb.com/title/tt5649144

Water

หนังจากอินเดียที่ชิงรางวัลออสการ์ในปี 2007 เล่าถึงอินเดียในปี 1938 ที่ซึ่งมีวัฒนธรรมว่า หากผู้หญิงคนไหนกลายเป็นแม่หม้ายแล้วไม่แต่งงานใหม่กับน้องชายสามีหรือฆ่าตัวตายตามสามี พวกเธอจะต้องไปใช้ชีวิตอยู่รวมกันในอาศรมแม่หม้าย หนังติดตามชีวิตของเด็กหญิงอายุ 8 ขวบที่ถูกจับแต่งงานตั้งแต่ยังเล็กและสูญเสียสามีไปอย่างรวดเร็ว เด็กน้อยต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ในอาศรมโทรมๆ ร่วมกับคนแปลกหน้า ในที่แห่งนี้ เราก็ได้รู้จักชีวิตของแม่หม้ายคนอื่นๆ ที่ถูกสังคมทอดทิ้ง และได้มองเห็นความพยายามที่จะมีความสุขเท่าที่โลกใบเล็กๆ ในอาศรมนั้นจะให้ได้

เรื่องราวของคนกลุ่มนี้ในสังคมอินเดียอาจดูไม่เหมือนเรื่องของคนไร้บ้าน แต่ที่ที่เขาอยู่นั้นไม่ใช่บ้าน เป็นเพียงเรือนไม้ผุพังที่ต้องอยู่ด้วยกันหลายคน โดยที่ไม่ได้มีสิ่งใดเป็นของพวกเขาจริงๆ คนกลุ่มนี้ไม่อาจมีชีวิตอิสระตามต้องการของตนเองได้ ไม่ต่างจากถูกคุมขังตลอดชีวิต ไม่อาจทำตัวเป็นประโยชน์ใดในสังคม และถูกเอารัดเอาเปรียบได้ง่ายเพราะกฎหมายไม่คุ้มครอง มีคนที่ถูกบังคับให้ไร้บ้านเพราะเหตุผลทางวัฒนธรรมคล้ายเช่นนี้อีกมากมาย และกลุ่มคนที่โดนผลกระทบหนักที่สุดก็คือเด็กๆ ที่ต้องถูกบังคับให้เติบโตเกินกว่าวัยของตนเอง

https://www.imdb.com/title/tt0240200

Shoplifters

ภาพยนตร์ชนะคานส์ของปี 2018 จากผู้กำกับญี่ปุ่นชื่อดัง ฮิโรคาสึ โคเรเอดะ ว่าด้วยคนแปลกหน้า 5 คนที่อาศัยอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวในบ้านของคุณยาย หนังเปิดด้วยการอุปการะเด็กน้อยคนใหม่เข้ามาในครอบครัวนี้ เธอเป็นเด็กผู้หญิงซึ่งนั่งอยู่นอกบ้านในความหนาวเหน็บระหว่างพ่อแม่ข้างในบ้านทะเลาะกันอย่างไม่ใยดีเธอ ชีวิตของพวกเขาไล่คว้าความสุขเท่าที่จะมีได้ และพวกเขาก็รักกันไม่ต่างจากครอบครัวที่มีสายเลือดเดียวกัน แต่ทุกคนในครอบครัวต่างรู้ว่าชีวิตที่อยู่ในพื้นที่สีเทาของกฎหมายเช่นนี้จะไม่มีทางยั่งยืน

หนังเรื่องนี้มองเผินๆ ยังไงก็ไม่เหมือนหนังเกี่ยวกับคนไร้บ้าน เพราะพวกเขาดูเป็นครอบครัวอบอุ่นที่มีความสุข และมีบ้านให้กลับทุกวัน แต่ปัญหาคือ พวกเขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้อย่างผิดกฎหมาย และสุดท้ายผู้ใหญ่ที่ดูแลเด็กๆ ที่หนีออกจากบ้านเพราะไม่ถูกใส่ใจ ก็กลายเป็นแค่เพียง ‘คนลักพาตัวเด็ก’ และการกระทำที่เปี่ยมด้วยรักแค่ไหนก็ไม่สำคัญ เมื่อสิ่งที่เขาสอนให้เด็กทำก็คือขโมยของไม่ก็ขายเรือนร่าง หนังทำให้เราเห็นปัญหาคนไร้บ้านที่ซุกซ่อนอยู่ในบ้าน คือไม่ได้อยู่ตามถนนหรือมุมอับของเมือง พวกเขาใช้ชีวิตเหมือนคนมีบ้าน แต่ความจริงแล้วก็เผชิญปัญหาแบบคนไร้บ้านอยู่นั่นเอง

https://www.imdb.com/title/tt8075192/

Ottaal

หนังภาษามลยาฬัมจากตอนใต้ของอินเดีย ติดตามชีวิตกุตตยาปิ เด็กชายอายุ 8 ขวบที่สูญเสียพ่อแม่ของเขาและต้องอยู่กับคุณตาผู้ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ดูแลหลานไปได้อีกกี่ปี คุณตาพาเด็กน้อยไปทำงานต้อนเป็ดด้วย เราได้เห็นชีวิตบ้านไร่ที่สวยงามท่ามกลางท้องทุ่งและสระบัว จนกระทั่งเข้าไปเจอกับเด็กชายอีกคนที่มีบ้าน มีทรัพย์สิน มีชีวิตมั่นคง และที่สำคัญคือมีการศึกษา เขาจึงได้พบว่าตัวเองขาดอะไรไป แต่วิธีเดียวที่จะได้เข้าถึงสิ่งที่ขาดเหล่านั้นคือ คุณตาจะต้องส่งเขาเข้าไปใช้ชีวิตในเมืองใหญ่เพื่ออนาคตที่ดีกว่า แต่อนาคตนั้นดีกว่าจริงหรือ?

สิ่งที่หนังเรื่องนี้ทำให้เห็นชัดที่สุดเกี่ยวกับชีวิตของเด็กไร้บ้าน คือการต้องทำงานแทนที่จะได้เรียนหนังสือในระบบการศึกษา เมื่อเป็นเด็กไร้บ้านแล้ว ไม่ว่าจะฉลาดแค่ไหนแต่ก็ยากที่จะได้มีการศึกษาอื่นนอกจากการเรียนรู้นอกห้องเรียน กุตตยาปินั้นมีไหวพริบและความสามารถในการเอาชีวิตรอด หนังยืนยันครั้งแล้วครั้งเล่าว่าเขาเป็นเด็กน่ารักที่สมควรได้รับโอกาสมากกว่านี้ในชีวิต แต่โลกความเป็นจริงกลับไม่สวยงาม และเมื่อเกิดมาในชีวิตที่ยากจนแล้ว ก็ไม่ง่ายนักที่จะลืมตาอ้าปาก

https://www.imdb.com/title/tt4625196/

Capernaum

เซนเป็นเด็กชายอายุ 12 ชาวเลบานอนที่บอกศาลว่าอยากฟ้องพ่อแม่ที่ทำให้เขาต้องเกิดมา พ่อแม่ของเขามีลูกหลายคน แต่กลับดูแลลูกได้ไม่ดีสักคน เขาซึ่งเป็นลูกคนโตจึงต้องทั้งทำงานหาเงินและคอยดูแลน้องๆ โดยเฉพาะน้องสาวที่เด็กกว่าเขาหนึ่งปีซึ่งถูกขายให้เป็นภรรยาคนอื่นและหลังจากนั้นไม่นานก็เสียชีวิตอย่างไม่ทราบเหตุ ความโกรธและรังเกียจครอบครัวทำให้เด็กชายหนีออกจากบ้าน ระหกระเหินไปจนเจอผู้อพยพชาวเอธิโอเปียและลูกทารกของเธอ ที่หากที่ทำงานรู้เข้าเรื่องลูก เธอจะต้องตกงานและโดนส่งกลับอย่างแน่นอน เซนเลยใช้ชีวิตเป็นพี่เลี้ยงเด็กแลกกับอาหารและการอาศัยอยู่ในเพิงที่พวกเขาเรียกว่าบ้าน

หนังเรื่องนี้พาเราท่องไปตามตรอกซอยของสลัมในเบรุต ทำให้เราได้เห็นชีวิตเคราะห์ซ้ำกรรมซัดของคนชนชั้นล่างที่เต็มไปด้วยความรุนแรง การขาดโอกาสทางการหางาน และความไม่มั่นคงแน่นอนในที่อยู่และทรัพย์สิน นอกจากนั้น หนังยังทำให้เห็นอีกว่าเซนมีโอกาสจะกลับไปอยู่บ้านดีๆ ก็ได้ แต่เมื่อกลับไปแล้วก็ยังโดนด่าทอทุบตีไม่ต่างจากตอนที่หนีออกมา สำหรับเขา ชีวิตในบ้านกับชีวิตริมถนนก็อันตรายและเลวร้ายพอๆ กัน และอย่างน้อยในโลกข้างนอก เขาก็ได้พบครอบครัวที่อบอุ่นและรักเขา

https://www.imdb.com/title/tt826760