ความตายที่เพิ่มขึ้นสามเท่าตัว: คนไร้บ้าน และความเพิกเฉยของรัฐ

ชายคนไร้บ้านนอนบนทางเท้าใกล้ๆกับศาลากลางซานฟรานซิสโก
ภาพ: Justin Sullivan/Getty Images

คนไร้บ้านในซานฟรานซิสโกเพิ่มขึ้นถึงสามเท่าในช่วงที่ผ่านมา ความตายนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกันการแพร่ระบาดของโควิดโดยตรง แต่ก็เป็นผลจากการที่ศูนย์พักพิงต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม ซานฟรานซิสโกประกาศมาตรการที่ทำให้ศูนย์พักพิงต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ศูนย์ต่างๆ จึงไม่สามารถรับคนไร้บ้านเพิ่ม และต้องลดความแออัดของผู้อยู่อาศัยในศูนย์ลงถึงร้อยละ 76

การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าผลักให้เกิดวิกฤติคนไร้บ้านอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของซานฟรานซิสโก เพราะคนไร้บ้านจำนวนมากไม่มีศูนย์พักพิงให้เข้าไปอาศัยอยู่ ถึงต้องมาอาศัยอยู่บนท้องถนนหรืออยู่ตามพื้นที่สาธารณะ จำนวนคนไร้บ้านที่มากางเต็นท์นอนในเมืองเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 71 และในย่านคนยากจนอย่างย่านเท็นเดอร์ลอยน์นั้น เต็นท์เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 258 

ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม ถึงวันที่ 24 พฤษภาคม มีคนไร้บ้านในซานฟรานซิสโกเสียชีวิตถึง 48 คน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว มีคนไร้บ้านเสียชีวิต 14 คน 

ในจำนวนคนไร้บ้าน 48 คนที่เสียชีวิต ส่วนมากเสียชีวิตในที่สาธารณะ และย่านยากจนอย่างย่านเท็นเดอร์ลอยน์มีคนไร้บ้านเสียชีวิตมากที่สุด ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เปิดเผยสาเหตุของการเสียชีวิต แต่ก็มีข้อมูลว่าคนไร้บ้านบางคนที่เสียชีวิตมีผลตรวจโควิดเป็นบวก และคนไร้บ้านหลายๆคนก็เสียชีวิตเพราะเสพยาเกินขนาด บางคนอาจมีอคติว่าคนไร้บ้านนั้นกลายมาไร้บ้านเพราะเสพยา แต่จริงๆแล้วคนไร้บ้านมักเสพยาเพราะความเครียดที่เกิดจากสภาวะไร้บ้าน 

ไม่ว่าคนไร้บ้านจะเสียชีวิตเพราะไวรัสโคโรน่าโดยตรงหรือไม่ นี่ก็คือการเสียชีวิตเพราะความล้มเหลวในการบริการจัดการของรัฐ นี่คือความตายที่หากรัฐมีการบริหารจัดการที่ดี ก็จะไม่เกิดขึ้นแต่แรก

ที่มา: The Guardian