จากคนไร้บ้านในมหานครโตเกียว ไทเฮ โคบายาชิ สามารถไต่เต้าขึ้นมาเป็นเจ้าของสตาร์ทอัพมูลค่ากว่าหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐ
ความสำเร็จของโคบายาชิน่ามหัศจรรย์อย่างยิ่ง บริษัท Sun* ของโคบายาชิช่วยสตาร์ทอัพและองค์กรต่าง ๆ วางแผนธุรกิจและออกแบบผลิตภัณฑ์ และเป็นหนึ่งในบริษัทที่เติบโตขึ้นมากในช่วงขยายตัวของหุ้นธุรกิจขนาดเล็ก หลังจากบริษัท Sun*เข้าสู่ตลาดหุ้นในเดือนกรกฎาคม ก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่าสามเท่าตัว
หากย้อนไปยี่สิบกว่าปีก่อน คงไม่มีใครคาดคิดว่าโคบายาชิจะประสบความสำเร็จเช่นนี้ โคบายาชิเล่าว่า เขาถูกไล่ออกจากบ้านในวัยเพียง 17 ปี หลังจากเขาลาออกจากโรงเรียนเพื่อเล่นดนตรี เขาเล่นดนตรีตอนกลางวันและต้องนอนริมถนนตอนกลางคืน โดยใช้กระดาษลังป้องกันตัวจากความหนาวเหน็บ เขาตกอยู่ในภาวะไร้บ้านเป็นเวลาปีครึ่ง และฝ่าฟันหน้าหนาวอันทรหดถึงสองครั้ง
เมื่อโคบายาชิอายุ 19 ปี ผู้จัดการร้านดนตรีร้านหนึ่งเห็นใจโคบายาชิ และชวนให้เขามาทำงานด้วยกัน พร้อมอนุญาตให้โคบายาชินอนที่ร้านได้
หลังจากทำงานกับร้านดนตรีได้ประมาณหกปี โคบายาชิเริ่มต้องการหางานใหม่ เขาเริ่มหาเงินจากการเทรดแผ่นเสียงในโลกออนไลน์ ต่อมาเขาได้สมัครงานที่ไม่ต้องการวุฒิ เพียงแค่ผ่านการทดสอบก็สามารถเริ่มงานได้
การทดสอบที่ยาวนานกว่าหกชั่วโมงทดสอบทั้งทักษะทางคณิตศาสตร์ การใช้เหตุผล และวัดค่าไอคิว เมื่อโคบายาชิสอบผ่าน และได้เข้าทำงาน เขาจึงได้รับการฝึกงานให้เป็นวิศวกรซอฟท์แวร์
ในองค์กรนี้ โคบายาชิพบกับมาโกโตะ ฮาราอิ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Sun* ทั้งสองเห็นตรงกันว่าวิศวกรซอฟท์แวร์ดี ๆ นั้นมีเยอะแยะไปหมด แต่มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถวางแผนธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งสองจึงตัดสินใจก่อตั้งสตาร์ทอัพนี้ขึ้นมา
โคบายาชิกล่าวว่า “ปณิธานของบริษัท Sun* คือ การตั้งใจทุ่มเทให้บริษัทสตาร์ทอัพเหล่านี้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะไม่คุ้มทุนของเราก็ตาม”
ปัจจุบัน Sun* มีลูกค้ากว่า 70 บริษัท และหุ้นของ Sun* มูลค่าเพิ่มขึ้นเกือบหกเท่าในเดือนกันยายน ส่งผลให้บริษัทมีมูลค่ากว่า 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ แม้ว่ามูลค่าตลาดของบริษัทจะลดลงมาน้อยกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐแล้ว แต่หุ้นร้อยละ 7.9 ของโคบายาชิก็มีมูลค่าเกือบ 74 ล้านเหรียญสหรัฐ
มิสึชิเกะ อากิโนะ เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงของบริษัท Ichiyoshi Asset Management จำกัด วิเคราะห์ว่ามีผู้สนใจในบริการของบริษัท Sun* อยู่มาก แต่ บริษัท Sun* มียอดขายและกำไรไม่มาก อีกทั้งอยู่ในวงการที่มีการแข่งขันสูง
โคบายาชิกล่าวว่าบริษัท Sun* ได้ร่วมงานกับองค์กร Masayoshi Son’s Softbank Group ซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นที่มั่นคงในดัชนีนิเคอิ 225 ซึ่งตรงตามเป้าหมายของโคบายาชิที่ต้องการให้บริษัท Sun* ร่วมงานกับองค์กรใหญ่ ๆ ให้มากขึ้น
ในปีที่ผ่านมา หุ้น Sun* และบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ ในดัชนี TSE Mothers มีมูลค่าเพิ่มขึ้น เมื่อนักลงทุนมองว่าสตาร์อัพเทคโนโลยีต่าง ๆ น่าจะคุ้มความเสี่ยงที่สุดในช่วงโรคระบาด
โทโมอิ คูโบตะ นักวิเคราะห์อาวุโสจากบริษัท Matsui Securities มองว่า หุ้น Sun* เป็นหุ้นโมเมนตัมที่มีอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้นสูงมาก แต่ต้องคอยดูแนวโน้มของหุ้นสตาร์ทอัพว่าจะเพิ่มขึ้นต่อหรือไม่ เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อตรงต่อการเติบโตของบริษัท
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงต่าง ๆ ไม่ทำให้โคบายาชิกังวล เพราะเขาเคยเผชิญสิ่งที่ยากลำบากที่สุด เมื่อเขาตกอยู่ในภาวะไร้บ้าน
ปัจจุบัน โคบายาชิกลับมาติดต่อกับครอบครัวของเขาอีกครั้ง และเขาพร้อมจะทุ่มเททำงานให้วิสัยทัศน์ของบริษัท Sun* เป็นจริงขึ้นมาให้ได้
ที่มา: https://taipeitimes.com/News/biz/archives/2020/12/13/2003748603