เจฟ เบซอส ผู้ก่อตั้งและประธานผู้บริหารกิจการค้าปลีกออนไลน์ยักษ์ใหญ่ “แอมะซอน” (Amazon) และแมคเซนซี เบซอส ภรรยา ประกาศมอบเงินสองพันล้านเหรียญเพื่อตั้งกองทุนช่วยเหลือครอบครัวคนไร้บ้านและสร้างเครือข่ายโรงเรียนอนุบาลไม่แสวงหากำไรในชุมชนผู้มีรายได้น้อย การเคลื่อนไหวดังกล่าวของเบซอสถือเป็นการเปิดตัวเข้าสู่กลุ่มมหาเศรษฐีนักบริจาคของโลก ในช่วงเวลาที่บริษัทแอมะซอนกำลังเติบโตและมีอำนาจทางเศรษฐกิจ
ที่มา Business Insider
เบซอส ได้ประกาศลงสื่อออนไลน์ว่าเขาจัดตั้ง “กองทุนเบซอสเดย์วัน” หลังจากปีที่ผ่านมา เบซอส ได้ทวิตเตอร์ขอคำแนะนำจากสาธารณะชนว่าหากเขาต้องการดำเนินการให้ความช่วยเหลือสังคม เขาสามารถทำโครงการอะไรได้บ้างที่เป็นโครงการช่วยเหลือเร่งด่วนแต่ให้ผลระยะยาว ซึ่งกองทุนนี้จะให้ความสำคัญ 2 เรื่องคือ
1)การให้ทุนสนับสนุนและมอบรางวัลแก่องค์กรที่ดำเนินงานอย่างทุ่มเทเรื่องที่อยู่อาศัยของคนไร้บ้านและการสนับสนุนความต้องการของเด็ก
2) การให้ทุนสนับสนุนเครือข่ายที่ทำงานด้านการศึกษาระดับอนุบาลในชุมชนผู้มีรายได้น้อย
โดยวิสัยทัศน์กองทุน คือ “ไม่มีเด็กคนใดต้องนอนในที่สาธารณะ” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากองค์กรการกุศล Mary’s Place ในซีแอตเติล เบซอสกล่าวว่า เขาจะใช้หลักการทำงานของกองทุนเช่นเดียวกับหลักการที่เขาขับเคลื่อนบริษัทแอมะซอน ที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าซึ่งกองทุนก็จะคำนึงถึงเด็กให้เหมือนลูกค้าของเราเช่นกัน
นอกจากนี้ในปี 2006 แอมะซอน ได้ปรับปรุงโรงแรมที่ไม่ได้ใช้งานที่กำหนดไว้เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของอะแมซอน เพื่อให้สามารถใช้เป็นสถานที่ชั่วคราวขององค์กรการกุศล Mary’s Place ให้เป็นที่พักอาศัยของคนไร้บ้าน 200 ครอบครัว และแอมะซอนได้ออกแบบพื้นที่ 47,000 ตารางฟุต ของพื้นที่สำนักงาน เพื่อใช้เป็นพื้นที่พักอาศัยถาวรของ Mary’s Place
กองทุนของเบซอสถือเป็นกองทุนที่มีเงินจำนวนมาก แต่ถือว่ายังน้อยหากเทียบกับบิล เกต และ วาเรน บัพเฟต สองมหาเศรษฐีที่ทุ่มเงินส่วนใหญ่ไปกับการกุศลและเรียกร้องให้กลุ่มมหาเศรษฐีให้คำมั่นที่จะมอบทรัพย์สินอย่างน้อยครึ่งหนึ่งเพื่อการกุศล หรืออย่างมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ในวัย 34 และพิลซิล่าชาน ได้ประกาศไว้ในปี 2015 ว่าจะบริจาคหุ้น 99% ในเฟซบุ๊กให้แก่องค์กรที่ทำประโยชน์เพื่อสาธารณชน
ที่มา www.bloomberg.com