“ปัญหาการเข้าถึงที่อยู่อาศัยเป็นปัญหาที่ยังคงเรื้อรังและขัดขวางการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของชาวออสเตรเลียที่มีรายได้น้อยมาโดยตลอด”
นี่คือสิ่งที่ผู้ทำงานในภาคประชาสังคมที่ต่อสู้เรื่องสิทธิที่อยู่อาศัยในออสเตรเลียวิจารณ์ถึงสถานการณ์ที่อยู่อาศัยในประเทศรวมถึงการทำงานของภาครัฐ โดยเฉพาะการจัดสรรงบประมาณที่ไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาดังกล่าว
แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศว่าการทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยในราคาที่เหมาะสมนั้นเป็นวาระแห่งชาติแล้ว แต่การใช้จ่ายงบประมาณเพียง 124.7 ล้านดอลลาร์ในเวลาสองปีที่ผ่านมาก็ยังไม่สามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อนโยบายดังกล่าวได้
นอกจากนี้ ปัญหาไฟป่า อุทกภัย และการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในออสเตรเลียล้วนเป็นปัจจัยเสริมส่งที่ทำให้ผู้คนนับพันกลายเป็นผู้ไร้บ้าน ผู้ที่ต้องนอนหลับตามที่สาธารณะซึ่งต้องร่อนเร่ไปทั่วประเทศ ไม่มีจุดหมายปลายทาง
15,200 ล้านดอลลาร์คือจำนวนตัวเลขงบประมาณที่ทางรัฐบาลออสเตรเลียใช้ไปเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานเพื่อประชาชนในรอบ 10 ที่ผ่านมา คำถามสำคัญที่ภาคประชาสังคมออสเตรีเลียสงสัยที่สุดนั่นคือ ทำไมการสร้างที่อยู่อาศัยแบบถาวรไม่ถือเป็นหนึ่งในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศด้วย พวกเขาไม่เห็นสิ่งเหล่านี้
ทั้งนี้ Anthony Albanese ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนฯ ของออสเตรเลีย ได้ให้สัญญาไว้ว่า ภายใน 5 ปีจากนี้ พรรคฝ่ายค้านของเขาจะของบประมาณ 10,000 ล้านดอลลาร์ในการสร้างที่อยู่อาศัยจำนวน 20,000 หลังเพื่อประชากรกลุ่มเปราะบางและผู้ที่ทำงานเป็นแนวหน้าของสังคม ในขณะที่ทางรัฐบาลกลางมีแผนที่จะใช้งบประมาณเพียง 124.7 ล้านดอลลาร์เพื่อแก้ไขปัญหาการเข้าถึงที่อยู่อาศัย โดยกระจายงบประมาณไปตามท้องถิ่น ภายใต้แผนงานข้อตกลงการเคหะและการแก้ไขปัญหาคนไร้บ้านแห่งชาติ
โดยแผนการที่ว่านี้มีกรอบงบประมาณสูงถึง 1.6 พันล้านดอลลาร์ซึ่งจะเป็นแผนการที่ช่วยอุดหนุนการสร้างที่อยู่อาศัยในออสเตรเลียพร้อมกับมีโปรแกรมช่วยเหลือและอุดหนุนการจ่ายค่าเช่าที่อยู่อาศัยซึ่งมีกรอบงบประมาณสูงถึง 5.3 พันล้านดอลลาร์
ปัญหาการเข้าถึงที่อยู่อาศัยในราคาที่เหมาะสมนั้นเป็นปัญหาที่วิกฤตมากขึ้น เมื่อราคาอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัยในซิดนีย์พุ่งสูงถึง 1.3 ล้านดอลลาร์ และนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์ของพื้นที่บริเวณโดยรอบ
งานวิจัยจากสถาบันวิจัยเพื่อการเคหะและที่อยู่อาศัยของออสเตรเลียล่าสุด ชี้ว่า ออสเตรเลียกำลังขาดแคลนที่อยู่อาศัยสำหรับเช่าถึง 173,000 หน่วย ซึ่งในจำนวนดังกล่าว 60,000 หน่วยนั้นคือตัวเลขจำนวนที่อยู่อาศัยที่ขาดแคลนในซิดนีย์ นอกจากนี้ยังพบว่า ร้อยละ 71 ของประชากรที่มีรายได้น้อยกำลังประสบปัญหาการขาดกระแสเงินสดเพื่อจ่ายค่าเช่าที่อยู่อาศัย รวมถึงพบว่า มีประชากรกว่า 1.3 ล้านคนที่กำลังหางานทำและใช้ชีวิตด้วยเงินเพียง 44 ดอลลาร์ต่อวันและมีแนวโน้มว่าจะใช้เงินต่อวันน้อยลงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ภาคประชาสังคมที่ทำงานเพื่อสิทธิการเข้าถึงที่อยู่อาศัยต่างเห็นว่า รัฐบาลดูเหมือนจะไม่ได้ดำเนินการอะไรเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชากรกลุ่มที่มีรายได้น้อย หรือไม่ได้ลงมือแก้ปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยเลย