คนไร้บ้านญี่ปุ่นกับการเข้า(ไม่)ถึงวัคซีนโควิด 19

ขอบคุณรูปจาก BBC News

กลุ่มคนไร้บ้านในภาวะปกตินั้นเผชิญกับความยากลำบากอยู่แล้ว แต่กลับยิ่งต้องถูกซ้ำเติมเมื่อพวกเขาส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงมาตรการเงินเยียวยาในสภาวะฉุกเฉินจากภาครัฐจำนวน 100,000 เยน (หรือราว 28,941 บาท) ที่รัฐมอบให้ผู้อยู่อาศัยทุกคน หนึ่งในคนไร้บ้านอายุกว่า 70 ปี ได้ให้สัมภาษณ์ว่าพวกเขารู้สึกถูกละเลยมากขึ้นไปอีกเมื่อไม่สามารถรับสวัสดิการดังกล่าวจากรัฐได้

หนึ่งปีต่อมา กลุ่มคนไร้บ้านก็ยังคงต้องรู้สึกโดนละเลยอีกครั้ง เมื่อเขาต้องเผชิญกับความยากลำบากในการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด 19 

“ถึงผมจะอยากฉีดวัคซีน ผมก็รู้ว่าผมไม่ได้วัคซีนแน่ เพราะผมไม่มีทะเบียนบ้านหรือเอกสารยืนยันตัวตน ” ชายไร้บ้านคนหนึ่งให้สัมภาษณ์

เขาเป็นหนึ่งในกลุ่มเปราะบางที่แนวโน้มที่จะไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีน แม้ว่าจะมีอาชีพและมีโรคประจำตัว ในขณะที่หนึ่งในสี่ของผู้อยู่อาศัยจำนวน 126 ล้านคนได้รับวัคซีนโมเดอร์นาหรือไฟเซอร์แล้วอย่างน้อย 1 โดส

แม้ว่าจะมีนโยบายจากกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการขอความร่วมมือรัฐบาลท้องถิ่นในช่วงปลายเมษายนที่ผ่านมาให้จัดสรรวัคซีนให้แก่คนไร้บ้านราว 4,000 คน ที่อาศัยอยู่ในสวนสาธารณะและริมแม่น้ำทั่วประเทศญี่ปุ่น แต่การขาดทะเบียนบ้านหรือเอกสารยืนยันตัวตนอื่น ๆ ยังคงเป็นอุปรรคสำหรับรัฐบาลท้องถิ่นในการดำเนินตามนโยบายจัดสรรวัคซีนดังกล่าว 

ปัญหาขาดแคลนเอกสารยืนยันตัวตนนั้นพบมากในกลุ่มคนไร้บ้าน โดยในการสำรวจของ Doctors of the World Japan ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระหว่างประเทศพบว่า ใน 314 คนที่มารับอาหารจากโรงทานในโตเกียวในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา 58% ต้องการได้รับวัคซีน แต่ 30 % ในนั้นแจ้งว่าพวกเขาไม่สามารถเข้าถึงคูปองวัคซีนได้ และหลายคนกล่าวว่าพวกเขาไม่มีเอกสารยืนยันตัวตนเลย 

ดังนั้นแล้วองค์กรช่วยเหลือบางกลุ่มจึงอนุญาตให้คนไร้บ้านใช้ที่อยู่ของสำนักงานตนเองเพื่อลงทะเบียน ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มคนไร้บ้านสามารถลงทะเบียนรับวัคซีนได้ อย่างไรก็ตาม คนไร้บ้านหลายคนลำบากใจที่จะใช้วิธีนี้

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ในเขตไทโทและชินจูกุยืนยันว่าเห็นความสำคัญในการจัดสรรวัคซีนแก่คนไร้บ้าน โดยตอนนี้กำลังพิจารณามาตรการในการรองรับกลุ่มเปราะบางดังกล่าวอยู่

อ้างอิง:

https://www.japantimes.co.jp/news/2021/07/01/national/covid-19-vaccine-homeless-japan-residency/?utm_medium=Social&utm_source=Facebook&fbclid=IwAR2eDkZTWpP2ltmVqJBZVOHqG5usClvUXNO5fq-fkeDMhaViOCXn74MphvU#Echobox=1625130523