ผลวิเคราะห์ในรายงานของคณะกรรมการบุคคลไร้บ้านออสเตรเลีย แสดงให้เห็นว่า ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา จำนวนคนไร้บ้านสวนทางกับงบประมาณ อีกทั้งมีปัญหาน่าหวั่นคือ จำนวนหญิงชราไร้บ้านเพิ่มขึ้นสองเท่า
เจนนี สมิท ประธานกรรมการบุคคลไร้บ้านออสเตรเลีย ออกมากล่าวในซิดนีย์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ออสเตรเลียกำลังเผชิญกับวิกฤตคนไร้บ้าน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนคนไร้บ้าน อันสวนทางกับงบประมาณที่จะมาสนับสนุนแก้ไขปัญหา
ขณะที่สังคมออสเตรเลียกำลังพุ่งความสนใจไปที่การตั้งแคมป์เรียกร้องรัฐบาลของกลุ่มคนไร้บ้านในย่านมาร์ตินเพลสกลางเมืองซิดนีย์ นางสมิทได้เตือนว่า ยังมีประเด็นปัญหาของคนไร้บ้านที่ซ่อนอยู่ เพราะในขณะที่จำนวนคนไร้บ้านในซิดนีย์ เมลเบิร์นเพิ่มจำนวนขึ้น แต่งบประมาณมีเพียงร้อยละ 6
“มันง่ายที่เราจะเพิกเฉยต่อการซ่อนเร้นปัญหาคนไร้บ้าน แต่คุณก็รู้ดีว่าพวกเขาคือประสบการณ์ที่เราสัมผัสได้จริง เป็นปัญหาจริงๆ”
“ความไม่มั่นคงของการไม่มี ‘บ้าน’ ถูกกัดกร่อนและฉีกขาด ไม่ว่ารูปแบบใด ล้วนใช้เวลาทั้งสิ้น” เธอกล่าว
พร้อมกับถ้อยแถลง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา(12 สิงหาคม 2560)ซึ่งตรงกับสัปดาห์คนไร้บ้าน คณะกรรมการฯได้เผยแพร่ผลการวิเคราะห์ข้อมูลของสถาบันสุขภาพและสวัสดิการแห่งออสเตรเลีย ในรายงานแสดงให้เห็นว่า คนไร้บ้านนอนในที่สาธารณะ(ไม่สามารถจ่ายค่าเช่า) และนอนในรถ มีจำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 46 และร้อยละ 60 ตามลำดับ
ตัวเลขที่ค่อนข้างน่ากังวล คือ จำนวนคนไร้บ้านผู้หญิงในวัยตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไปเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยตั้งแต่ปีพ.ศ. 2555-56 มีจำนวน 885 คน พอถึงปีพ.ศ. 2558-59 มีจำนวน 1,618 คน คิดเป็นจำนวนสองเท่า นอกจากนี้ ตัวเลขผู้หญิงที่นอนในรถกระโดดจาก 161 คน ไปเป็น 257 คน
นางสมิท เสนอว่าควรสร้างที่อยู่อาศัยสาธารณะ และชุมชนจำนวน 100,000 ยูนิต เพื่อบรรเทาวิกฤตการณ์ครั้งนี้
“ในแต่ละปี คนไร้บ้านมากกว่า 70,000 คน ปฏิเสธไม่รับความช่วยเหลือจากศูนย์บริการคนไร้บ้าน”
“คนไร้บ้านจำนวนมากต้องการเพียงเตียงนอนในแต่ละคืน แต่มันไม่มีเตียงให้ ก็จบด้วยการนอนในที่สาธารณะ และกลายเป็นบุคคลอันตราย”
“เหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ มันไม่มีบ้านที่ช่วยรองรับผู้คน”
ด้านรัฐบาลกล่าวว่า เงินระดมทุนที่ได้จากข้อตกลงระหว่างรัฐในประเด็นคนไร้บ้านเริ่มไหลเข้ามาแล้ว และจะเริ่มต้นสร้างที่อยู่อาศัยรองรับคนไร้บ้านจำนวน 700 ยูนิต
กองทุนดังกล่าวมาจากการรณรงค์ของเครือข่ายของกลุ่มคนไร้บ้าน ไม่ใช่จากรัฐบาล เพราะรัฐบาลได้ลอยแพนโยบายการทำงานร่วมกันระหว่างรัฐกับคนไร้บ้าน รวมถึงข้อตกลงให้งบประมาณของรัฐต่างๆ
ในส่วนของข้อตกลงระหว่างรัฐที่จะจัดตั้งงบประมาณจำนวน 1.5 พันล้านเหรียญเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยยังคงอยู่ในช่วงการเจรจาต่อรอง
เซด ซีเซลจา ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงบริการสังคม กล่าวว่า ข้อตกลงฉบับใหม่ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมปีหน้า จะลดข้อจำกัดการระดมทุนเพื่อคนไร้บ้านในระยะสั้น ซึ่งจะทำให้ภาคส่วนนี้มีความมั่นคงมากขึ้น
นางสมิท ได้ชี้ว่า การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะสำคัญ
“แต่อย่าเพิ่งดีใจ ในขณะที่เราก้าวผ่านสัปดาห์คนไร้บ้าน ชัยชนะของเราเป็นเพียงการได้รับงบประมาณมาสนับสนุนในส่วนที่เราขาด”
“พวกเรายังไม่มีแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติ เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงที่อยู่อาศัย และแก้ปัญหาคนไร้บ้านอย่างถาวร”
เธอเตือนด้วยว่า ศูนย์บริการคนไร้บ้านกำลังจะเผชิญกับปัญหาจำนวนคนไร้บ้านที่เพิ่มขึ้นจำนวน 43,000 คนต่อปี แต่งบประมาณนั้นไม่เพิ่มขึ้นตาม
เขียนโดย Christopher Knaus
ที่มา: Theguardian