รัฐบาลสหรัฐฯ ทุ่มงบเกือบ 5 พันล้านแก้ไขปัญหาคนไร้บ้าน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเคหะและพัฒนาเมืองแห่งสหรัฐฯ Marcia L. Fudge เผยว่า รัฐบาลจะใช้งบประมาณเกือบ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อเป็นกองทุนสนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้เข้าถึงได้รวมถึงอุดหนุนโครงการอื่นที่สามารถช่วยผู้ที่กำลังจะประสบภัยการเป็นผู้ไร้บ้าน เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2021 ที่ผ่านมา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเคหะและพัฒนาเมืองแห่งสหรัฐฯ Marcia L. Fudge ชี้แจงถึงแผนการการทุ่มงบประมาณเกือบ 5 พันล้านดอลลาร์เพื่อแก้ไขปัญหาคนไร้บ้าน เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2021 ที่ผ่านมา
(ที่มาภาพ: The Washington Post)

โดยงบประมาณจำนวนเกือบ 5 พันล้านดอลลาร์ที่ว่าเป็นส่วนหนึ่งของแผนการใช้งบประมาณจำนวน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อฟื้นฟูประเทศหลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีไบเดน และถือเป็นก้าวสำคัญของการบริหารประเทศภายใต้ American Rescue Plan Act 2021 ที่มุ่งเน้นไปที่การเยียวยาและฟื้นฟูทั้งเชิงสาธารณสุขและเศรษฐกิจของประเทศในช่วงหลังการแพร่ระบาดของ COVID-19

การขัดความยากจนให้ออกไปจากสหรัฐฯ ท่ามกลางการแพร่ระบาดในครั้งนี้

งบประมาณนี้ รัฐต่างๆ สามารถนำไปใช้เพื่อช่วยเหลือ บรรเทา และเยียวยาผู้ไร้บ้าน รวมถึงป้องกันความเสียงที่จะเกิดผู้ไร้บ้านหน้าใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เปราะบางสำหรับทุกคน

โดยมาตรการช่วยเหลือดังกล่าวมีตั้งแต่การให้ที่พักอาศัยแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร การซื้อโรงแรมหรือขอเช่าสถานที่เพื่อเปลี่ยนเป็นที่พักให้ผู้ที่ไร้บ้าน นอกจากนี้ยังรวมถึงการช่วยเหลือผู้ที่ต้องการที่พักพิงชั่วคราวเนื่องจากปัญหาความรุนแรงในครอบครัวอีกด้วย โดยที่เงินงบประมาณส่วนนี้จะถูกบริหารจัดการโดยโปรแกรมการพัฒนาเมืองและที่อยู่อาศัย ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้และสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย 

ณ เดือนมกราคม 2021 จำนวนตัวเลขผู้ไร้บ้านในสหรัฐสูงถึง 580,000 คน เพิ่มถึงร้อยละ 2 จากปีที่ผ่านมา ตัวเลขนี้ยังไม่นับรวมถึงผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่กำลังเผชิญกับความไม่มั่นคงทางที่อยู่อาศัยอย่างมาก เช่น เสี่ยงที่จะถูกไล่ที่เนื่องจากไม่มีเงินจ่ายค่าเช่า เพราะถูกปลดออกจากงาน เป็นต้น นอกจากนี้ ผลการศึกษามากมายยังชี้ว่ ผู้ที่ประสบกับปัญหาเหล่านี้ส่วนมากคือประชากรผิวสีรวมถึงที่มีเชื้อสายลาตินอีกด้วย

Fudge คาดการณ์ว่า การใช้งบประมาณจำนวนมากครั้งนี้จะช่วยลดจำนวนผู้ไร้บ้านได้มากถึง 130,000 คน ภายใน 12 ถึง 18 เดือน

นอกจากนี้ งบประมาณที่ทุ่มลงไปส่วนมากจะพุ่งไปยัง 4 รัฐ ได้แก่ รัฐนิวยอร์ก รัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐฟลอริดา และรัฐเท็กซัส เพราะจากจำนวนผู้ที่กำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่จะไร้บ้านหรือความไม่มั่นคงทางที่อยู่อาศัยกว่าครึ่งนั้น ล้วนแต่อาศัยอยู่ใน 4 รัฐนี้ทั้งสิ้น นอกจากนี้ หนึ่งในสี่ของจำนวนผู้ไร้บ้านต่างอาศัยอยู่ในนครนิวยอร์ก และนครลอสแอนเจลิส

Fudge ยังชี้แจงอีกว่า รัฐบาลท้องถิ่นถือเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจถึงวิธีการบริหารจัดการเงินตรงนี้ ในขณะเดียวกัน Fudge เชื่อว่าการจัดหาที่พักอาศัยแบบถาวรคือสิ่งที่ควรได้รับความสำคัญเป็นอันดับแรกมากกว่าการสร้างศูนย์พักพิงชั่วคราว

และภายใต้การบริหารประเทศของไบเดน รัฐบาลยังมีมาตรการที่จะช่วยเหลือผู้ที่จะซื้อที่อยู่อาศัยด้วยการช่วยอุดหนุนเงินดาวน์สำหรับผู้ที่พักอาศัยที่ศูนย์พักพิงของรัฐอีกด้วย

Fudge เชื่อมั่นและมีความหวังว่า ภายใต้การบริหารประเทศโดยไบเดน รัฐบาลจะสามารถขจัดปัญหาคนไร้บ้านด้วยการสร้างที่พักอาศัยแบบถาวรให้มากขึ้น และส่งเสริมมาตรการที่จะทำให้การมีที่อยู่อาศัยนั้นเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นโดยเฉพาะสำหรับชาวอเมริกันที่มีรายได้น้อย

ที่มา: How Biden stimulus bill will target homelessness – The Washington Post