เป็นเวลาหลายเดือนที่คนไร้บ้านในอิตาลีต้องประสบกับความไม่แน่นอนในวิกฤตการณ์โควิด 19 พวกเขามิอาจล่วงรู้ได้เลยว่าตนจะได้รับวัคซีนหรือไม่ ด้วยเหตุที่คนไร้บ้านจำนวนมากเป็นผู้อพยพที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามา พวกเขาไม่ได้อยู่ในระบบสาธารณสุขของอิตาลี อีกทั้งยังไม่มีทะเบียนบ้านหรือบัตรประกันสังคม ส่งผลให้ไม่สามารถเข้าถึงการจัดสรรวัคซีนได้ ซึ่งนั่นก็กระทบกับการทำมากินของกลุ่มคนไร้บ้านตามไปด้วย
ทางสาธารณะสุขของภูมิภาคลาซิโอ (ภูมิภาคที่เมืองโรมตั้งอยู่) ได้ผลักดันจัดงาน Open Night งานที่เปิดให้ประชาชนชายขอบและกลุ่มเปราะบางได้ฉีดวัคซีนฟรี ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มคนไร้บ้าน นักเรียนต่างชาติ บุคคลข้ามชาตินอกระบบ หรือแม้แต่บุคคลข้ามชาติในระบบที่ไม่สามารถเข้าถึงสวัสดิการทางสาธารณสุข
สาธารณสุขเลือกใช้วัคซีนโดสเดียวจบอย่าง Johnson & Johnson ซึ่งเหมาะกับกลุ่มคนชายขอบและกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะคนไร้บ้านที่การนัดเพื่อฉีดวัคซีนเข็มสองเป็นไปได้ยาก และเพื่อเชิญชวนให้คนอยากออกมาฉีดวัคซีนในงาน Open Night กันมากขึ้น ภายในงานจึงมีนักเปียโนมาบรรเลงเพลงแจ๊สเพื่อสร้างบรรยากาศในคืนวันเสาร์ ส่วนในเช้าวันอาทิตย์ก็มีกาแฟเอสเปรสโส่และคอร์เน๊ตตี้คอยให้บริการผู้ร่วมงาน
แองเจโล ทานีส ผู้อำนวยการองค์กร ASL Roma 1 องค์กรทางสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค กล่าวว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้รับบริการในคลินิกซานโต สปิริโต เป็นแรงงานข้ามชาตินอกระบบ
ในขณะที่ เกนฟรานโซ คอสตันโซ หัวหน้าสถาบันเพื่อสุขภาพ ผู้อพยพ และผู้ยากไร้แห่งชาติ คาดการณ์ว่า มีคนอิตาลีอย่างน้อย 700,000 คน ที่ไม่สามารถลงทะเบียนรับวัคซีนได้ … “ถือเป็นตัวเลขที่เยอะมาก โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสถานการณ์การระบาด” เขาให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ “แต่สิ่งนี้ทำให้เราตั้งคำถามถึงสิทธิที่พึงมี เพราะระบบสาธารณสุขของเรารับประกันว่าทุกคนมีสิทธิรับวัคซีน ไม่ว่าจะมีชื่อในระบบหรือไม่”
การฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงเป็นเรื่องที่จำเป็นมากขึ้นโดยเฉพาะในปัจจุบันที่ไวรัสโควิด 19 เริ่มกลายพันธ์ุออกเป็นสายพันธ์ุต่าง ๆ ทั่วโลก แม้ว่าหลายพื้นที่ในอิตาลีเริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเปราะบางแล้ว แต่ในหลายพื้นที่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้ามากนัก
ดร. อเลสซานโดร เวโรนา จากองค์กรการกุศลช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง INTEROS ให้ข้อมูลว่า การระบาดครั้งนี้ทำให้เห็นถึงข้อจำกัดของระบบสาธารณสุขระดับภูมิภาค คนที่อยู่นอกระบบต้องประสบความยากลำบากและความวุ่นวายเพื่อเข้าถึงระบบสาธารณสุขของรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนผู้อพยพที่ย้ายภูมิภาค
“โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ผู้คนต่างอพยพย้ายถิ่นฐานเคลื่อนย้ายไปในสังคมใหม่ ๆ แม้ว่ากลุ่มผู้อพยพจะเป็นคนส่วนน้อยในสังคม แต่พวกเขาเหล่านี้ต่างก็สมควรได้รับการปกป้องจากรัฐ” – เวโรนากล่าว “การเข้าถึงระบบสาธารณสุขไม่ควรเป็นเรื่องยาก เราควรทำให้การเข้าถึงระบบสาธาณสุขเป็นเรื่องง่ายที่ใครก็เข้าถึงได้”
ASL Roma 1 ร่วมกับองค์กรอาสาสมัครต่าง ๆ กำลังดำเนินการเพื่อเพิ่มจำนวนคนที่ได้รับวัคซีนในกลุ่มประชากรเปราะบาง ด้วยการลงพื้นที่ฉีดวัคซีนให้แก่คนไร้บ้านตามชุมชนต่าง ๆ โดยเข้าไปฉีดวัคซีนทั้งตามอาคารที่มีคนไร้บ้านเข้าไปพักอาศัย และด้วยรถฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ อีกทั้งยังเร่งจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนอีกสองแห่งให้แก่คนไร้บ้านให้แล้วเสร็จภายในอาทิตย์นี้
ดร. เปาโล ปาเรนเต้ ผู้รับผิดชอบโมเดลการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขมูลฐานขององค์กร ASL Roma 1 กล่าวว่า “พวกเรารู้สึกว่ามันเป็นความรับผิดชอบของเราที่บางคนในชุมชนยังไม่ได้รับวัคซีน” และ “ในตอนนี้ที่การจัดสรรวัคซีนในระดับประเทศกำลังเริ่มดำเนินการ เราต้องเริ่มจากคนที่เปราะบางที่สุดก่อน”
อ้างอิง:
https://www.nytimes.com/2021/07/04/world/europe/rome-vaccination-drive.html