ที่อยู่อาศัย (ไม่) มาก่อน ส่องนโยบายคนไร้บ้านใน “ยุคทรัมป์” กับอนาคตของ Housing First

เมืองแซคราแมนโต รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา: ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกประกาศแนวทางใหม่ในการแก้ไขปัญหาคนไร้บ้าน ผ่านการบังคับย้ายประชาชนที่อาศัยอยู่ตามพื้นที่ท้องถนนเข้าสู่ค่ายพักพิงคนไร้บ้านขนาดใหญ่ และกำหนดให้คนไร้บ้านต้องเข้ารับการบำบัดรักษาปัญหาสุขภาพจิตและการติดสารเสพติด ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่มีความรุนแรงและเข้มงวดขึ้นจากนโยบายหลักที่มุ่งเน้นเรื่อง “ที่อยู่อาศัยต้องมาก่อน” (Housing First) ในฐานะวิธีการที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการแก้ปัญหาคนไร้บ้าน

การประกาศนโยบายแก้ไขปัญหาคนไร้บ้านนี้ แม้จะยังไม่ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการจากทำเนียบขาว แต่ก็ได้เริ่มมีการเปิดทางให้กับการดำเนินงานที่เน้นเรื่องการบำบัดมาก่อน (Treatment-First) พร้อมทั้งวางแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ของระบบที่อยู่อาศัยและการให้บริการทางสังคม ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการแก้ปัญหาคนไร้บ้านในเมืองและเขตต่างๆ ทั่วประเทศ โดยในปีที่ผ่านมามีการจัดสรรงบประมาณกว่า 4 พันล้านดอลลาร์ ให้กับโครงการเหล่านี้ แต่ในปัจจุบัน สก็อต เทอร์เนอร์ (Scott Turner) หัวหน้ากระทรวงที่อยู่อาศัยและการพัฒนาเมืองภายใต้การบริหารของโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบทางด้านงบประมาณและโครงการสำหรับคนไร้บ้าน ได้มีการประกาศลดงบประมาณลงเป็นจำนวนมาก และเรียกร้องให้มีการทบทวนการใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชน

การเสนอให้ลดจำนวนบุคลากร ส่งผลกระทบอย่างมากต่อหน่วยงานที่ดูแลด้านงบประมาณการจัดการคนไร้บ้านและโครงการ Housing First โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัมป์ได้แสดงวิสัยทัศน์ของเขาไว้ระหว่างการหาเสียง โดยเรียกร้องให้มีการเปิดสถานบำบัดสุขภาพจิตใหม่บนที่ดินของรัฐบาลขนาดใหญ่ ซึ่งพื้นที่นี้ถูกเรียกว่า “เมืองเต็นท์ (tent cities)” เป็นพื้นที่สำหรับรองรับคนไร้บ้านจากท้องถนน และผู้ที่ถูกย้ายเข้าไปจะได้รับการรักษาและฟื้นฟูทางด้านจิตใจ หรือหากไม่ให้ความร่วมมือ อาจต้องเสี่ยงต่อการเผชิญกับการถูกจับกุม

ภายหลังการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ทรัมป์ได้เริ่มให้ความสนใจเกี่ยวกับปัญหาคนไร้บ้านในพื้นที่สาธารณะ โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทรัมป์ได้สั่งให้กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. กวาดล้างค่ายคนไร้บ้าน ซึ่งอาจส่งผลให้คนไร้บ้านถูกแยกออกจากเจ้าหน้าที่ดูแลเคสและผู้ให้บริการทางสังคม ส่งผลให้เส้นทางการเข้าสู่ที่อยู่อาศัยของพวกเขาลดลง

ฝ่ายบริหารของทรัมป์ ได้พยายามกดดันไม่ให้รัฐบาลท้องถิ่นดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลกลาง โดยระบุว่า จะไม่บังคับใช้สัญญาที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาคนไร้บ้าน “หากสัญญานั้นกำหนดให้ต้องใช้โมเดล Housing First” และในคำสั่งล่าสุดที่มีเป้าหมายเพื่อลดขนาดของระบบราชการกลาง ทรัมป์ได้ตัดงบประมาณสภาระหว่างหน่วยงานว่าด้วยคนไร้บ้านของสหรัฐฯ (U.S. Interagency Council on Homelessness) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการประสานงานด้านงบประมาณและโครงการระหว่างรัฐบาลกลาง รัฐ และหน่วยงานท้องถิ่น ซึ่งรู้จักกันในชื่อ Continuums of Care (โครงสร้างที่จัดตั้งขึ้นเพื่อประสานงานและจัดหาบริการแบบครบวงจรสำหรับคนไร้บ้าน)

การสนับสนุนโดยไม่บังคับให้เข้าสู่การบำบัด

โครงการ Housing First เริ่มใช้ในระดับชาติเมื่อปี 2004 ภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช (George W. Bush) เพื่อรับมือกับปัญหาคนไร้บ้านเรื้อรัง ซึ่งหมายถึงผู้มีภาวะทุพพลภาพที่อยู่ตามท้องถนนเป็นระยะเวลานาน โดยนโยบายนี้ถูกขยายผลการดำเนินงานในสมัยของประธานาธิบดีบารัค โอบามา และต่อยอดโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้มองว่า “ที่อยู่อาศัยคือความต้องการขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต่อสุขภาพ”

นโยบายนี้มีเป้าหมายเพื่อทำให้คนไร้บ้านมีที่อยู่อาศัยถาวร และมอบการดูแลและการเข้ารับการบำบัดรักษาโดยไม่บังคับเมื่อคนไร้บ้านไม่ต้องอาศัยตามพื้นที่สาธาณะแล้ว พวกเขาก็จะสามารถหางาน ดูแลสุขภาพ และสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้มากขึ้น

แต่ในทางกลับกัน ทรัมป์ ต้องการลดทอนนโยบายที่อยู่อาศัยซึ่งได้รับเงินอุดหนุนจากภาษี และมุ่งหน้าผลักดันแนวทางในรูปแบบของการลงโทษ ซึ่งรวมถึงการปรับเงินหรือจับกุมคนไร้บ้าน และบังคับให้เข้ารับการบำบัดสุขภาพจิตและการติดสารเสพติดต่างๆ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนทิศทางนโยบาย Housing First อย่างสิ้นเชิง

การโจมตี Housing First

Housing First ไม่เพียงกำลังถูกโจมตีจากฝ่ายรีพับลิกัน (Republicans) ที่ต่อต้านการใช้ภาษีสนับสนุนที่อยู่อาศัยแก่คนไร้บ้าน แต่ยังถูกโจมตีโดยพรรคเดโมแครต (Democrats) บางส่วนที่ต้องการตอบสนองต่อความไม่พอใจของสาธารณชนเกี่ยวกับค่ายคนไร้บ้านที่แพร่กระจายไปทั่วประเทศ

ในปีที่แล้ว รัฐบาลกลางประเมินว่ามีคนไร้บ้านในสหรัฐฯ กว่า 770,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้น 18% จากปี 2023 ในขณะที่ราคาที่พักอาศัยแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ค่ายคนไร้บ้านก็ได้เพิ่มจำนวนขึ้นตามพื้นที่สาธารณะ จึงเป็นสาเหตุที่รัฐและเมืองต่าง ๆ ทั้งฝ่ายเสรีนิยมและอนุรักษ์นิยม ต่างเริ่มใช้มาตรการเข้มงวดกับคนไร้บ้านมากขึ้น 

ที่มา: https://www.cbsnews.com/news/trump-homelessness-response-forced-treatment/