ปฏิวัติบ้านเช่า ให้เราได้อาศัยในสังคมร่วมกัน

ราคาค่าครองชีพ ดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อพากันทะยานสูงขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ภาระเหล่านี้ตกอยู่ที่ใคร นั่นเป็นคำถามที่หลายฝ่ายย่อมรู้คำตอบดีอยู่แล้ว

บ้านกลายเป็นความฝันที่เกินเอื้อของใครหลายคน แม้ว่าภาครัฐหลายแหล่งจะพยายามทำตัวเป็นสะพานสานฝันเรื่องนี้ของใครหลายคนให้เป็นจริง

แต่บ้านในราคาที่เอื้อถึงยังดูเหมือนเป็นเรื่องฝันกลางวันอยู่ดี เมื่อเทียบกับรายรับและรายจ่ายของใครหลายคน “ขึ้นทุกอย่างยกเว้นเงินเดือน” เห็นที่จะไม่ใช่เรื่องล้อเล่นอีกต่อไป มันอาจเคยเป็นวลีขำๆ แต่ในเรื่องจริงมันไม่ได้ตลกแบบนั้น

ในสหรัฐอเมริกา ปัญหานี้ยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ผลกระทบขยายวงมาสู่ชนชั้นกลางระดับล่างที่ถือได้ว่าเป็นผู้ได้รับแรงกระแทกจากภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองนี้ไปเต็มๆ พบว่ากว่า 11 ล้านครัวเรือนในสหรัฐอเมริกาเสียค่าเช่าบ้านครึ่งหนึ่งของรายได้ นั่นยิ่งทำให้คนกลุ่มนี้ได้รับผลกระทบหนัก เพราะด้วยคุณสมบัติไม่ได้เข้าเกณฑ์ที่จะรับความช่วยเหลือจากภาครัฐหรือเอกชนอะไรได้

KC Tenants คือใคร?

KC Tenants ก่อตั้งขึ้นในค.ศ. 2019 เป็นสหภาพผู้เช่าบ้านในแคนซัสซิตี้ นำโดยกลุ่มผู้เช่าที่รายได้ต่ำและชนชั้นแรงงาน เพื่อจัดหาบ้านที่ปลอดภัย เข้าถึงได้ และราคาที่เป็นธรรมให้แก่ทุกคน  แน่นอนว่าไม่มีใครจะรู้ซึ้งถึงปัญหาเหล่านี้ได้ดีกว่าพวกเขาอีกแล้ว ปัจจุบัน KC Tenants มีสมาชิก 4,300 คน พนักงานประจำ 7 คน และมีสัญลักษณ์ประจำกลุ่ม คือ เสื้อยืดสีเหลือง

 “The rent is too damn high!”

ประโยคจากการประท้วงของกลุ่ม KC Tenants สะท้อนให้เห็นว่า บ้านต่อให้เป็นบ้านเช่ามันก็แพงไปอยู่ดี

ค่าเช่าแพงหน้าตาอย่างไร?

จากผลการสำรวจของกลุ่ม KC Tenants พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามราว 600 คน (85.4% ของผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด) มีค่าใช้จ่ายเป็นค่าเช่าเฉลี่ย 1030.41 ดอลลาร์ต่อเดือน ในขณะที่จ่ายค่าสาธารณูปโภครายเดือนเฉลี่ย $296.08 และค่าธรรมเนียมอื่นๆอีก $79.81 เท่านั้น คิดเป็น 56.2% ของรายได้จากแบบผู้ตอบแบบสอบถาม สวนทางกับนิยามของคำว่าราคาบ้านที่ “จับต้องได้” ตามมาตรฐานควรอยู่ที่ 30% ของรายได้อยู่มาก นับว่าเป็นภาวะราคาบ้านที่รุนแรง

ปรากฏการณ์ค่าเช่านี้สะท้อนอะไร

จากที่เคยเข้าใจว่ากลุ่มที่จะได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่สูงเกินกว่าจะจับต้องได้นั้น ส่งผลกระทบจำกัดเพียงแค่กลุ่มผู้มีรายได้น้อย ชนชั้นแรงงาน และผู้ยากไร้นั้น ไม่เป็นความจริงอีกต่อไปแล้ว ด้วยวิกฤติทางเศรษฐกิจที่รุนแรง ประกอบกับสถานการณ์หลังโรคระบาดครั้งใหญ่ อัตราเงินเฟ้อที่ถูกปรับให้สูงขึ้น ทำให้ค่าครองชีพ โดยเฉพาะราคาบ้านสูงลิ่วขึ้นไปอย่างไม่หยุดยั้ง ผลกระทบจึงขยายวงกว้างขึ้นมาสู่กลุ่มชนชั้นกลางระดับล่าง ที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายครัวเรือน โดยเฉพาะคิดเป็นค่าที่อยู่อาศัยหรือเช่าบ้านกว่าครึ่งของรายได้ต่อเดือน

เหตุและปัจจัยเหล่านี้ได้นำมาสู่กระบวนการเคลื่อนไหว เพื่อเรียกร้องสิทธิในการเข้าถึงบ้าน เรียกร้องให้ภาครัฐบาลเข้ามามีส่วนในการจัดระเบียบและออกนโยบายเพื่อควบคุมราคาค่าเช่าบ้าน ตัวอย่างเช่น Kansas City ราคาค่าบ้านกำลังพุ่งสูงทะยายขึ้นควบคู่ไปกับการพัฒนาและการเติบโตของเมือง เมืองมีจำนวนอยู่อาศัยราคาแพงเพิ่มขึ้น แต่ที่อยู่อาศัยราคาจับต้องได้สำหรับคนกลุ่มรายได้ปานกลางกลับลดลงไปเรื่อยๆ ผู้ให้เช่าและอสังหาริมทรัพย์ให้เหตุผลว่า ด้วยต้นทุนที่ต้องแบกรับมีสูงขึ้น ทั้งการลดหย่อนภาษีและอัตราดอกเบี้ยที่สูงจึงจำเป็นต้องปรับราคาบ้านให้สูงขึ้นเช่นเดียวกัน

นัยหนึ่งปัญหาเหล่านี้ก็มาจากสาเหตุที่บ้านได้ถูกผูกขาดไว้ในมือของบริษัทนายหน้า บริษัทและนายทุนเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เพียงหยิบมือหนึ่ง นั่นทำให้กลุ่ม KC Tenants กลายเป็นเครื่องมือการขับเคลื่อนที่สำคัญของกระบวนการนี้นับตั้งแต่ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 เพื่อผลักดันให้ประเด็นนี้เข้าไปสู่ความเป็นการเมือง เพื่อให้รัฐบาลหันมาให้ความสำคัญ เช่น การมีกฎหมายที่สร้างให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้เช่าด้านต่างๆ การมีกฎหมายให้ผู้เช่าสามารถแต่งตั้งทนายความได้ในระหว่างที่ถูกฟ้องขับไล่ หรือแม้แต่การเรียกร้องให้มีการพักชำระหนี้ การปรับอัตราเพดานดอกเบี้ยที่เหมาะสมให้แก่เจ้าของบ้านเช่าด้วย เป็นต้น

สหภาพผู้เช่าบ้าน

แคมเปญ Homes Guarantee ซึ่งทำงานเพื่อสร้างสหภาพผู้เช่าทั่วประเทศ Raghuveer ผู้นำแคมเปญนี้อธิบายว่า KC Tenants เป็นเสมือนกระบวนการทดลงในท้องถิ่นที่จะนำไปสู่การเคลื่อนไหวในระดับชาติ

เธอกล่าวว่า “ ฉันคิดว่าทุกๆ องคาพยพในระดับชาติล้วนมีท้องถิ่นเป็นฐานทั้งนั้น”  

ความไม่พอในและความขุ่นเคืองที่มีต่อราคาบ้านที่สูงขึ้นเป็นจุดร่วมที่สำคัญที่จะสร้างให้เกิดการผลึกกำลังกันในกลุ่มที่จะนำไปสู่ผู้เช่าหลากหลายกลุ่มที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยขับเคลื่อนเรื่องความเหลือด้านที่อยู่อาศัย ด้วยความเห็นพ้องถึงผลประโยชน์ที่มีร่วมกัน การรวมกลุ่มจะยิ่งทำให้เกิดเสียงของการเรียกร้องที่ดังขึ้น การเคลื่อนไหวที่ถูกมองเห็นโดยรัฐมากขึ้น

ตัวอย่างเช่น ในเขตเซนต์ปอล มินนิโซตา ได้ผ่านกฎหมายควบคุมการเช่าฉบับใหม่ รวมทั้งมีการทดลองใช้โครงการการให้เงินสนับสนุนเพื่อการแก้ไขปัญหาด้านที่อยู่อาศัย นอกจากการรอเงินจากรัฐบาลกลางเพียงอย่างเดียว (ซึ่งมักไม่ค่อยมาถึงระดับท้องถิ่นเท่าไร) เพื่อสร้างให้เกิดแนวทางในการร่างนโยบายสาธารณะที่สามารถแก้ไขปัญหาด้านที่อยู่อาศัยให้ดีขึ้นได้ กล่าวได้ว่า การเมืองเรื่องบ้านสะท้อนโครงสร้างของเศรษฐกิจการเมืองของประเทศได้มากกว่าที่คิด

การรวมตัวสหภาพผู้เช่าบ้านจะทำให้เกิดไม่เพียงจัดการปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังมีการเรียกร้องให้เกิดการพิทักษ์สิทธิ์ของผู้เช่า การทำงานของ KC Tenants จึงควบรวมกับเรื่องการผลักดันให้เกิดกฎหมายสิทธิในการได้รับคำปรึกษาซึ่งเทศบาลเมืองจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้สำหรับทนายความ เพื่อเป็นตัวแทนของผู้เช่าที่ต้องเผชิญกับการขับไล่

การจัดโครงสร้างเรื่องบ้านให้ราคาบ้านกลายเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้กับทุกคนในสังคม เป็นหัวใจสำคัญของขบวนความยุติธรรมทางสังคมและขบวนการเรียกร้องสิทธิพลเมืองตั้งแต่ช่วงเปลี่ยนศตวรรษที่ 20 เป้าหมายที่สำคัญคือการสร้างเมืองที่ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกันให้ได้

ที่มา :

– KANSAS CITY: THE RENT IS TOO DAMN HIGH

Preliminary results from a KC Tenants survey of households in Kansas City, MO. https://docs.google.com/document/d/1tavWgAzG6udGSZSDMrkKQ1x5yuBN1Yn3nglVhcfxMyA/edit

– The Rent Revolution Is Coming https://www.nytimes.com/2022/10/15/business/economy/rent-tenant-activism.html?smid=tw-share

– To attract more developers, Kansas City changes its affordable housing ordinance — again https://thebeacon.media/stories/2022/08/26/to-attract-more-developers-kansas-city-changes-its-affordable-housing-ordinance-again