กลายเป็นคนไร้บ้านไม่รู้ตัว! ชาวบ้านหลายร้อยคนกลายเป็นคนไร้บ้านเมื่อถูกรัฐบาลไนจีเรียไล่ที่โดยไร้ค่าชดเชย

ขอบคุณภาพจาก: Rights Corridor

รัฐบาลไนจีเรียได้ดำเนินการไล่ที่หมู่บ้านกว่า 8 ชุมชน หรือบ้านมากกว่า 15,000 หลังที่บริเวณริมน้ำในหมู่บ้านดิโอบู เมืองพอร์ตฮาร์คอร์ต การไล่ที่ดังกล่าวส่งผลให้มีชาวบ้านหลายร้อยคนกลายเป็นคนไร้บ้านและต้องสูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมากโดยไร้ค่าชดเชยหรือที่อยู่อาศัยใหม่จากทางรัฐ

วันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา รัฐบาลไนจีเรียได้ดำเนินการไล่ที่หมู่บ้านกว่า 8 ชุมชน หรือบ้านมากกว่า 15,000 หลังที่บริเวณริมน้ำในหมู่บ้านดิโอบู เมืองพอร์ตฮาร์คอร์ต โดยทางการของไนจีเรียอ้างว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปเพื่อหยุดยั้งการผลิตและการขายดีเซลและพาราฟินอย่างผิดกฎหมาย โดยในแถลงการณ์ของรัฐบาลได้ระบุถึงความประสงค์ของรัฐบาลที่จะจัดการพื้นที่บริเวณริมฝั่งน้ำโดยการไล่ที่กระท่อมทุกหลัง โดยมองว่าอาชาญากรได้ใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นฐานการดำเนินการผิดกฎหมาย ในขณะเดียวกัน ภาคประชาสังคมมองว่าการกระทำของรัฐคือการยึดที่ดินอย่างไม่ชอบธรรม และทางภาครัฐควรดำเนินการสืบสวนและจับกุมผู้ที่ทำผิดกฎหมายเท่านั้น ไม่ใช่ไล่ที่ชาวบ้านที่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว

ทั้งนี้ทางผู้อยู่อาศัยเดิมเล่าว่า การไล่ที่และทำลายตึกนั้นอยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพ ตำรวจ และหน่วยป้องกันความมั่นคงลพลเมืองแห่งไนจีเรีย ทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้พวกเขานำอะไรติดตัวออกมาทั้งสิ้น และเมื่อพวกเขากลับไปเอาทรัพย์สินก็ถูกจับกุมตัวและถูกทำร้ายร่างกาย นอกจากนี้ ทางราชการไม่ได้เข้ามาให้คำปรึกษาหรือเสนอค่าชดเชยแต่อย่างใด แม้ว่าตามกฎหมายจะระบุให้รัฐบาลต้องเสนอค่าชดเชยหรือเสนอที่อยู่อาศัยอื่น ๆ ทดแทน หากรัฐเข้ามาเวนคืนพื้นที่ก็ตาม การดำเนินการไล่ที่ในครั้งนี้จึงส่งผลให้ชาวบ้านหลายร้อยคนต้องกลายเป็นคนไร้บ้านในพื้นที่สาธารณะและสูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก

อ้างอิง: https://www.theguardian.com/global-development/2022/mar/01/we-woke-to-bulldozers-nigeria-slum-clearance-leaves-thousands-homeless