พิษเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ผลักให้หลายคนต้องเข้าสู่สภาวะไร้บ้านเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันร้านอาหารประมาณ 12,000 ร้านในเมืองนิวยอร์กก็ได้รับอนุญาตให้เปิดบริการรับประทานอาหารในบริเวณหน้าร้าน ส่งผลให้การปะทะกันระหว่างร้านอาหารและคนไร้บ้านนั้นมีมากขึ้นตามไปด้วย โดยปัญหาที่หลายร้านพบคือ คนไร้บ้านได้เข้ามาขออาหารและเงินจากลูกค้าที่มารับประทานอาหารเป็นจำนวนมาก
หลายร้านต่างหาวิธีจัดการปัญหานี้ เช่น การจ้างยาม การแจ้งตำรวจเป็นประจำ หรือบางร้านก็เลือกที่จะให้ความช่วยเหลือคนไร้บ้านเหล่านี้ด้วยตนเอง
“เราทำอาหารให้พวกเขา” สตีเฟ่น เวอร์เทอร์ เจ้าของร้านอาหารร้านเวสต์ วิลเลจ กล่าว “[การช่วยเหลือพวกเขา] ทำให้เราสร้างสัมพันธ์ที่ดีและแน่นแฟ้นกันภายในชุมชนได้มากขึ้น ดีกว่าจะรู้สึกแย่ต่อกันเปล่า ๆ ” เขากล่าวเสริม
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ทุกร้านที่จะสามารถจัดการปัญหาด้วยวิธีนี้ได้ ร้านเคาน์เตอร์ แอนด์ โบเดก้า ในเชลซี ได้แจกอาหารให้แก่คนไร้บ้านในช่วงแรกเช่นกัน แต่ภายหลังก็มีคนไร้บ้านมาขออาหารและเงินมากขึ้น จนต้องจ้างยามมารักษาความปลอดภัยให้กับร้าน อย่างไรก็ดีทางร้านก็ไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายได้ จนในที่สุดต้องตัดสินใจย้ายร้านไปตั้งที่อื่น
ทางด้าน เคท สมาร์ท โฆษกของนายกเทศมนตรีบิล เดอ บลาซิโอ ได้ชี้แจ้งว่าได้จัดหาเตียงให้คนไร้บ้านในสถานสงเคราะห์เพิ่ม รวมถึงเพิ่มเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ เป็นมากกว่า 600 คน ซึ่งถือว่ามากกว่าปี 2557 ถึงสามเท่า “หลายปีที่ผ่านมา รวมไปถึงช่วงเวลาวิกฤตนี้ ทีมสังคมสงเคราะห์ของเรามีความพยายามในการเข้าช่วยเหลือคนไร้บ้านไม่ว่าจะเป็นการแจ้งให้พวกเขาทราบถึงสวัสดิการที่มีอยู่และแนะนำให้พวกเขาเข้ารับบริการเหล่านั้น” สมาร์ทกล่าว นอกจากนั้นสมาร์ทยังขอความร่วมมือให้ผู้ที่พบเห็นผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือให้แจ้ง 311
อย่างไรก็ดี แชคเคอรีน ซิโมน นักวิเคราะห์นโยบายอาวุโส ของเครือข่ายช่วยเหลือคนไร้บ้าน ให้ข้อมูลว่า หากมีคำร้องไปที่ 311 มากเกินไป ทางเทศบาลก็จะส่งเจ้าหน้าที่มายึดทรัพย์สินที่มีอยู่น้อยนิดของคนไร้บ้าน นอกจากนี้ซิโมนยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า คนไร้บ้านต้องการที่อยู่อาศัยที่ถาวร ไม่ใช่ไปอยู่ในสถานสงเคราะห์ ซึ่งความต้องการเหล่านี้ทางนครนิวยอร์กยังไม่สามารถที่จะจัดการให้ได้ และเธอมองว่าปัญหาคนไร้บ้านยังไม่ถูกแก้ไขอย่างเร่งด่วนเท่าที่ควรจะเป็น
ซิโมนยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เธอหวังว่าร้านอาหารที่พบเจอคนไร้บ้านจะเลือกจัดการปัญหาด้วยการแจ้งเจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์แทนการแจ้งตำรวจหรือจ้างยามมาจัดการพวกเขา เพราะการใช้กำลังจัดการอาจทำลายความเชื่อใจของคนไร้
บ้านที่มีต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งความเชื่อใจเหล่านี้่ เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ใช้เวลากว่าหลายเดือนในการสร้างขึ้นมา “คนที่มีความมั่นคงทางรายได้และสามารถที่จะรับประทานอาหารข้างนอกในช่วงการระบาดของโควิด-19 อาจไม่อยากเห็นความยากจนที่มีอยู่ในสังคม (…) แต่มันมีความแตกต่างระหว่างช่วยเหลือคนเปราะบางเหล่านี้ กับการหันหน้าหนีไปทางอื่นและซุกปัญหาไว้ใต้พรหม”
ในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมานครนิวยอร์กได้ย้านคนไร้บ้านกว่า 8,000 คนไปอยู่ในสถานสงเคราะห์ แต่ร้านอาหารก็ยังคงเผชิญปัญหาคนไร้บ้านมาขอเงินที่ร้านเป็นประจำอยู่ดี