ค่ายคนไร้บ้านที่หายไป แต่วิกฤติคนไร้บ้านยังคงอยู่ : เมืองฟีนิกซ์สั่งรื้อค่ายคนไร้บ้าน เพื่อแก้ไขปัญหาคนไร้บ้าน

เมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้อยู่ภายใต้การสั่งรื้อ “โซน” ซึ่งเป็นค่ายคนไร้บ้าน ที่อยู่ในตัวเมือง ในช่วงวันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา เต็นท์และแคมป์ไฟได้มีการหายไปจากพื้นที่ดังกล่าว รวมไปถึงทางเท้าที่คนไร้บ้านได้สร้างเป็นที่พักพิงชั่วคราวจากไม้พาเลทและผ้าใบกันน้ำด้วย เหลือเพียงแค่พื้นที่ว่างเปล่า เสื้อผ้า และขยะที่ถูกทิ้งไว้

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ “โซน” ได้กลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่า หลังจากถูกสั่งรื้อ โดยคำสั่งรื้อได้เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้พิพากษาในรัฐแอริโซนาได้มีการประกาศว่าพื้นที่ค่ายคนไร้บ้านเป็น “พื้นที่ที่สร้างความเดือนร้อนให้แก่สาธารณะ” ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และได้มีคำสั่งให้เมืองฟีนิกซ์รื้อค่ายคนไร้บ้านให้เสร็จก่อนกำหนดภายในวันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2566 ทันที

การดำเนินการรื้อค่ายคนไร้บ้าน เมืองฟีนิกซ์ได้มีการเริ่มรื้อในช่วงเดือนพฤษภาคม โดยเริ่มการรื้อไปทีละบล็อคเพื่อทำการขอความร่วมมือคนไร้บ้านให้ย้ายเข้าไปอยู่ในห้องพักโรงแรม ศูนย์พักพิง หรือที่อยู่อาศัยระยะสั้น โดยจากการขอความร่วมมือครั้งนี้ มีคนไร้บ้านจำนวนประมาณ 600 คน ที่ยอมออกจากค่ายแล้วย้ายมาอยู่ในที่อยู่อาศัยชั่วคราวที่ทางเมืองได้มีการจัดไว้ให้ โดยที่อยู่ดังกล่าวมีการใช้งบประมาณทั้งหมดจำนวน 20 ล้านดอลลาร์ นอกเหนือจากนี้เมืองยังมีการเปิดที่ตั้งแคมป์ ซึ่งมีการลงทุนมูลค่า 13 ล้านดอลลาร์ ในพื้นที่ว่างในบริเวณใกล้เคียง โดยมีเต็นท์ อาหาร ห้องน้ํา และห้องอาบน้ําพร้อมสําหรับคนไร้บ้านจำนวน 300 คน สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการหรือไม่สามารถอยู่ในที่อยู่อาศัยระยะสั้นได้

แต่ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นของเมืองก็มีผู้คนที่เห็นต่างด้วยเช่นกัน โดยผู้สนับสนุนด้านที่อยู่อาศัยกล่าวว่าการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นสามารถทําได้เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆสำหรับการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยราคาถูก เนื่องจากเมืองยังคงต้องการหน่วยที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อยเพิ่มเติมอีกหลายหมื่นหน่วยเพื่อรองรับประชากรไร้บ้านที่เติบโตมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ที่มีจำนวนมากกว่า 9,000 ในช่วงหกปีที่ผ่านมา

จากสถานการณ์ดังกล่าวในการรื้อค่ายคนไร้บ้านเพื่อผลักดันให้คนไร้บ้านออกมาอาศัยในที่อยู่อาศัยระยะสั้น ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาคนไร้บ้านได้ เนื่องจากเมืองยังพบว่ายังมีคนไร้บ้านที่ตกอยู่ในสภาวะไร้บ้านอยู่ รวมไปถึงยังมีคนไร้บ้านที่ยังต้องการอาศัยอยู่ในค่ายต่อ และมีบางส่วนที่หนีไปจากค่ายคนไร้บ้านก่อนเจ้าหน้าที่จะให้การช่วยเหลือ ซึ่งทำให้แสดงเห็นว่าการรื้อค่ายคนไร้บ้านยังไม่ใช่ทางออกในการช่วยเหลือคนไร้บ้านอย่างยั่งยืนในการช่วยให้คนไร้บ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ที่มา :