คติในวรรณกรรมพื้นบ้านของอังกฤษที่ได้รับความนิยมในสมัยยุคกลางจนถึงวรรณกรรมสมัยใหม่ ถูกนำมาปรับใช้เป็นสโลแกนร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงมาดริด ประเทศสเปน โดยในตอนกลางวันจะเปิดเป็นร้านอาหารเก็บเงินลูกค้าตามปกติ แต่ในตอนกลางคืนจะเปิดให้คนไร้บ้านได้ดินเนอร์
คติ “ปล้นจากคนรวยและให้กับคนยากจน” ของโรบินฮูด วีรบุรุษนอกกฎหมายในคติชนอังกฤษ ยังคงถูกนำมาผลิตซ้ำผ่านวรรณกรรม ภาพยนตร์ และโทรทัศน์ อยู่เสมอ
แต่คราวนี้ คติในวรรณกรรมพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมในสมัยยุคกลางจนถึงวรรณกรรมสมัยใหม่ ได้ถูกนำมาปรับใช้เป็นสโลแกนร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงมาดริด ประเทศสเปน โดยในตอนกลางวันจะเปิดเป็นร้านอาหารเก็บเงินลูกค้าตามปกติ แต่ในตอนกลางคืนจะเปิดให้คนไร้บ้านได้ดินเนอร์
The Robin Hood restaurant ตั้งอยู่บนถนนใกล้ใจกลางกรุงมาดริด เป็นร้านอาหารตามแบบฉบับของบาร์สเปน ในช่วงกลางวันจะมีตั้งแต่ กาแฟ โครเก้(ตำรับของสเปนมักจะไม่ใส่ซอสและมันฝรั่ง-ผู้แปล) ตู้สลอต เครื่องขายบุหรี่อัตโนมัติ แฮมขาหมูที่วางไว้บนเคาท์เตอร์ แต่ในช่วงกลางคืน มันจะกลายเป็นสถานที่ดินเนอร์สำหรับคนไร้บ้าน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ท่ามกลางโต๊ะที่ประดับประดาไปด้วยแจกันดอกไม้ แก้วน้ำ มีด ช้อน และส้อมที่ใช้ในการรับประทานอาหาร
ร้านอาหารแห่งนี้ ริเริ่มดำเนินการจากองค์กรการกุศล เมนซาเจอรอส เดอ ลาปาส แปลว่า “ผู้ส่งสารความสันติ” ซึ่งก่อตั้งโดยบาทหลวง อังเคล การ์เซีย โรดริเกวซ มานานกว่า 54 ปี โดยมีโมเดลธุรกิจง่ายๆแต่ต้องมีแรงปรารถนาอันแรงกล้า คือ นำเงินจากการขายอาหารเช้าและอาหารกลางวัน มาใส่เก็บรอมในกองทุนเพื่อทำอาหารให้คนไร้บ้าน
“ผมได้แรงบันดาลใจมาจากโป๊ปฟรานซิส ที่พูดถึงความสำคัญของการให้เกียรติผู้คนอยู่เสมอ ไม่ว่าจะในทางไหน ทั้งการให้เครื่องประทังชีวิต หรือการให้งาน”
“ดังนั้น เราจึงคิดว่า ทำไมไม่เปิดร้านอาหารที่มีโต๊ะอาหาร พร้อมด้วยผ้าปูโต๊ะ มีด, ช้อนและส้อมที่ใช้ในการรับประทานอาหาร มีพนักงานคอยบริการเสริฟอาหารล่ะ โดยคนที่ไม่มีอะไร หรือเขาไม่ถึงสิ่งเหล่านี้สามารถเข้ามารับประทานอาหารในร้านอาหารแห่งนี้ แล้วได้รับปฏิบัติเหมือนกับคนอื่นๆ มันแค่เป็นสามัญสำนึก” บาทหลวงอังเคล กล่าว
ประเทศสเปนกำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ โดยอัตราการว่างงานเข้าใกล้ระดับร้อยละ 20 ในขณะที่ทั่วทั้งยุโรปมีวัยรุ่นว่างงานสูงถึงร้อยละ 42 ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทำให้เกิดผลกระทบต่อผู้คน และองค์กรการกุศลในสเปน รวมทั้งองค์กร เมนซาเจอรอส เดอ ลาปาส ต้องเข้าไปรองรับปัญหามากขึ้น
ในแต่ละวัน บาทหลวงอังเคลแจกจ่ายอาหารเช้าและอาหารกลางวันให้คนไร้บ้านที่อยู่ใกล้กับโบสถ์ราว 200 คน ในตอนเย็นร้านอาหารแห่งนี้ก็จะบริการคนไร้บ้านจำนวนร้อยคน
ถ้าโมเดลนี้ไปได้สวย องค์กรพัฒนาเอกชนแห่งนี้วางแผนที่จะขยับขยาย และหวังว่าจะดึงพ่อครัวแม่ครัวที่มีชื่อเสียงมาช่วยทำอาหารให้คนไร้บ้านในช่วงเย็น
“มนุษย์ไม่สามารถอยู่ได้ด้วยขนมปังเพียงอย่างเดียว แต่คัมภีร์ไบเบิ้ลคงลืมไปว่า บางคนยังไม่มีแม้แต่ขนมปังจะทาน ดังนั้น เรากำลังพยายามจะให้ขนมปังแก่พวกเขา” บาทหลวงอังเคล วัย 79 ปี กล่าว
บาทหลวง อังเคล การ์เซีย โรดริเกวซ
บาทหลวงยังกล่าวอีกว่า การตั้งชื่อร้านว่า “โรบินฮูด” ก็เพื่ออยากให้เกิดการกระตุ้นผู้คน แม้โรบินฮูดจะมีภาพการยิงธนู และใช้ดาบเพื่อช่วยเหลือคนจนโดยการปล้นคนรวย แต่ไอเดียที่คิดขึ้นคงไม่รุนแรงถึงขั้นปล้นคนรวย เป็นเพียงการปลุกใจให้พวกเขาแบ่งปันความโชคดีของพวกเขาเท่านั้น”
“ชื่อร้านเป็นเพียงแค่การเติมสีสันเพื่อให้คนทั่วไปได้รับรู้ และพ่อเชื่อว่ามันทำให้คนสนใจได้มาก”
Antonio Gutiérrez
รามอน หลุยส์ คนไร้บ้าน ที่เข้าไปรับประทานอาหารค่ำในร้านอาหารแห่งนี้ เล่าว่า…
“อาหารที่นี่ยอดเยี่ยมและอลังการมาก ผมให้ดาวมากเท่าที่จะให้ได้เลย และผมจะกลับมาใหม่ในวันพรุ่งนี้”
ส่วนคาร์เมน ฮวนกิโต ซึ่งได้รับเสริฟ ซุป และแซนวิสบนโต๊ะอาหาร กล่าวว่า…
“ร้านอาหารแห่งนี้คือ ชีวิตและความสุขของดิฉัน มันมีสิ่งที่ดีที่สุด เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในโลก”
อันโตนิโอ กูเตียร์เรซ บุคคลที่ใช้ชีวิตเป็นคนไร้บ้านยาวนานนับทศวรรษ ไม่ได้ทานอาหารในร้านอาหารมานานเกือบ 4-5 ปี เล่าถึงความรู้สึกของการเข้ามารับประทานอาหารที่ร้านแห่งนี้ว่า
“ถ้าคุณไม่มีอะไรเลย มันมีความหมายกับคุณมากๆ” เขากล่าวพร้อมกับสั่งเค้กมาทานอีกหนึ่งชิ้น.
ที่มา : The Guardian