อคติคนไร้บ้านจากการสำรวจ
เราเกลียดคนที่ไม่รู้จักได้ด้วยเหรอ? ถอดตัวเลขจากรายงานสำรวจภูมิทัศน์คนไร้บ้านในสื่อออนไลน์ ทำไมอคติต่อคนไร้บ้านพุ่งสูงเกิน 50%
เราเกลียดคนที่ไม่รู้จักได้ด้วยเหรอ? ถอดตัวเลขจากรายงานสำรวจภูมิทัศน์คนไร้บ้านในสื่อออนไลน์ ทำไมอคติต่อคนไร้บ้านพุ่งสูงเกิน 50%
ไม่ “ผู้โชคร้ายที่รอรับความช่วยเหลือ” ก็ “ผู้ร้ายที่ต้องโดนกำจัดออกไป”
เมื่อคนไร้บ้าน ไร้เสียง ไร้ตัวตน ล่องหนในเรื่องราวของตัวเอง
เรื่องราวของคนไร้บ้านเป็นที่รับรู้มากขึ้นผ่านการสื่อสารต่างๆ ทั้งในระดับนโยบาย ชุมชน และบุคคลที่อยู่ในกลุ่มประชากรเปราะบาง และพอรับรู้มากขึ้น ลำดับถัดไปคือความเข้าใจที่มากขึ้นว่าการที่คนๆ หนึ่งเปลี่ยนจากการเป็นคนมีบ้านมาเป็นคนไร้บ้าน มาจากเหตุผลและปัจจัยอะไรได้บ้าง
แต่จากการสำรวจสื่อออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับคนไร้บ้าน ระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 ถึง วันที่ 30 เมษายน 2568 ทั้งหมด 726 สื่อ แบ่งเป็นข่าวจากเว็บไซต์ จำนวน 228 ข่าว (31.4%) และโพสต์บน Facebook จำนวน 498 โพสต์ (68.6%) เราพบว่า ทัศนคติเชิงลบหรืออคติต่อคนไร้บ้าน ยังมีมากกว่า 50% ทัศนคติที่ไม่แสดงว่าเป็นบวกหรือลบ30.26% และ เชิงบวก 12.28%
. . เปิดฐานข้อมูลคนไร้บ้านประเทศไทย: สถิติและแนวโน้มที่ […]
. . . จากผลการแจงนับคนไร้บ้านทั้งประเทศไทยและผลการสำรวจ […]
Dashboard ผลการแจงนับคนไร้บ้านทั้งประเทศไทย เมื่อคืนวันที่ 23 พฤษภาคม 2566 จากความร่วมมือของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย มูลนิธิกระจกเงา และมูลนิธิอิสรชน พบข้อมูลที่น่าสนใจ
ราบงานฉบับนี้มุ่งเน้นการศึกษาไปที่การทบทวนฐานข้อมูลและวิธีการเก็บข้อมูลคนจนเมืองของประเทศไทยในปัจจุบัน และเพื่อวิเคราะห์ช่องว่างและข้อจำกัดของฐานข้อมูลและวิธีการเก็บข้อมูลคนจนเมืองของประเทศไทย โดยกำหนดกรอบการทบทวนอยู่ภายในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑลโดยรอบ
จากการนำเสนอข้อมูลทางสถิติว่าจำนวนคนไร้บ้านที่มีปัญหาสุขภาวะทางจิตมีจำนวนมาก อาจทำให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจว่าโรคจิตเวชคือสาเหตุที่บุคคลกลายเป็นคนไร้บ้านแม้ว่าจะไม่ได้มีข้อมูลที่บ่งบอกว่าโรคจิตเวชเป็นสาเหตุของการเป็นคนไร้บ้านก็ตาม และยังทำให้ประชาชนเข้าใจไปอีกว่า คนไร้บ้านส่วนใหญ่มีโรคทางจิตเวช ความเข้าใจผิดเหล่านี้อาจนำไปสู่การมองการแก้ปัญหาคนไร้บ้านคือการแก้ที่ตัวบุคคลมากกว่าการแก้ที่ระบบโครงสร้างทางสังคม
รายงานฉบับนี้คือการวิจัยเชิงปฏิบัติเพื่อมุ่งเน้นการพัฒนากระบวนการพัฒนาทุนทางจิตให้กับผู้ไร้บ้าน นอกจากนี้ยังเป็นการทดลองนำเครื่องมือที่วัดในการตั้งหลักของคนไร้บ้านไปประยุกต์ใช้จริงอีกด้วย
การศึกษาโอกาสในการเข้าสู่ภาวะไร้บ้านด้วยการวิจัยภาคสนาม เป็นวิจัยที่สำรวจประเด็นคนไร้บ้านโดยมุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์โอกาสการเข้าสู่ภาวะไร้บ้าน และปัจจัยเสริมอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวเนื่องกัน
รัฐบาลทั่วโลกต่างใช้นโยบาย “อยู่กับบ้าน” “แยกตัวเองจากผู้อื่น” “ระยะห่างทางสังคม” และ “ล้างมือ” เพื่อลดการระบาดของโรคและลดจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า นโยบายเหล่านี้วางอยู่บนสมมติฐานที่ว่าคนทุกคนมีบ้านอยู่และมีบริการสุขอนามัยที่เพียงพอ แต่สำหรับคนราว 800 ล้านคนทั่วโลกที่เป็นคนไร้บ้าน พวกเขาเข้าไม่ถึงสิ่งเหล่านี้
รายงานการประมาณการประชากรคนไร้บ้าน ภายใต้สถานการณ์การระ […]