ท่ามกลางสถานการณ์ค่าครองชีพที่ยังคงทะยานขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง เกิดปรากฏการณ์ที่น่าสนใจที่ในกลุ่มหนึ่งโดยเฉพาะกับกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย แต่ยังรวมถึงเด็กเล็กส่วนนึงใน เกือบ 10,000 คน และเป็นเด็กมากกว่าอีก 4,000 คนต้องอาศัยอยู่ในห้องพักริมทางเป็นที่พักฉุกเฉินนานเป็นเวลาหลายปี คนกลุ่มนี้ถูกขนานนามว่า “motel generation”
แมนเชสเตอร์ (Manchester) เมืองหัวหอกสำคัญในการปฎิวัติอุตสาหกรรมดนตรีอังกฤษ เป็นรากฐานของกระแส Britpop โอลิเวอร์ วิลสัน (Oliver Wilson) จับมือกับผองเพื่อนก่อตั้งกิจการเพื่อสังคมภายใต้นิยามว่า “social enterprise lifestyle space” เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขวิกฤตการณ์คนไร้บ้าน
“Coffee that doesn’t just taste good, it does good too.” นั่นคือสโลแกนสำคัญของร้าน Change Please ชาวลอนดอนจำนวนมากดื่มกาแฟอย่างต่ำวันละสองแก้ว หรือราว 60 ต่อคนต่อเดือน ถ้ากาแฟหนึ่งที่สองแก้วต่อวันของเราจะสามารถเปลี่ยนชีวิตใครสักคนในสังคมได้ ทำไมเราจึงไม่ทำล่ะ
ภาพการจัดการปัญหาในความคิดของใครหลายคนอาจเป็นการสร้างที่พักชั่วคราว มีปัญหาก็ใช้ตำรวจจัดการไป แต่แท้จริงแล้ว ปัญหาของคนไร้บ้าน ไม่ใช่แค่การมี “ที่อยู่อาศัย” จัดที่ทางให้คนเหล่านี้อยู่เป็นหลักแหล่ง แต่หมายถึงการมี “บ้าน” ในความหมายที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่แห่งนั้นด้วย การบังคับใช้เพียงกฎหมายเพื่อจัดการก็ยังคงไม่ใช่คำตอบที่ดีเท่าไรนัก
สื่อรายงานว่าเกิดเหตุกราดยิงที่เมืองแลงลีย์ รัฐบริติชโคลัมเบียของแคนาดา ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และเสียชีวิต 2 ราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่าหนึ่งในผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นคนที่ประสบปัญหาไร้บ้าน
อัตราการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากการใช้ยาเสพติดเกินขนาดของคนไร้บ้านในเมืองเบลฟัสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ พุ่งสูงที่สุดตั้งแต่ต้นปี 2565 ทางนายกเทศมนตรี องค์กรการกุศล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงร่วมหารือถึงการแก้ไขวิกฤตดังกล่าวในระยะยาว
องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในมณฑลลูเนนเบิร์ก ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนคนไร้บ้านที่ขอความช่วยเหลือด้านที่พักอาศัย โดยกลุ่มที่มีจำนวนมากที่สุดคือครอบครัวที่มีเด็ก ซึ่งจำนวนเด็กที่ติดอยู่ในสถานการณ์เปราะบางและไม่ปลอดภัยที่เพิ่มสูงขึ้น จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาการค้ามนุษย์มากกว่ากลุ่มอื่น
ตำรวจนิวเซาท์เวลส์ออกมาตรการห้ามคนไร้บ้านขอรับบริจาคเงินจากบุคคลทั่วไปตามท้องถนน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้คนไร้บ้านได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างแท้จริง ทั้งในเรื่องที่พักฉุกเฉิน การสนับสนุนด้านการเงินและการรักษาสุขภาพจิต ตลอดจนความช่วยเหลือเกี่ยวกับการใช้แอลกอฮอล์หรือสารเสพติด
ค่าครองชีพและค่าเช่าที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ผู้คนในรัฐแทสเมเนีย ประเทศออสเตรเลีย เข้าสู่สภาวะไร้บ้าน ในขณะที่รัฐบาลได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะจัดหาพื้นที่ปลอดภัยเพื่อเป็นที่พักพิงให้ได้ 10,000 แห่ง ภายในปี พ.ศ. 2575
เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เมืองฟีนิกซ์และบางพื้นที่ในสหรัฐอเมริกา ต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นจนกลายเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดในประวัติการณ์ จากสาเหตุความร้อนได้คร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนไร้บ้านที่มีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าบุคคลที่อยู่ในที่กำบังประมาณ 200 เท่า
เข้าสู่ช่วงเริ่มต้นฤดูหนาว ทำให้กลุ่มคนไร้บ้านในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย เผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวเย็น แต่อย่างไรก็ตาม ทางทีมดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินกำลังดำเนินการช่วยเหลือให้กลุ่มคนไร้บ้านเหล่านี้ได้เข้าพักอาศัยในสถานที่พักพิงเพื่อบรรเทาความหนาวเย็นลง
หน่วยงานรัฐบาลและองค์กรการกุศลรวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือ เรื่องการติดตามสูติบัตรและบัตรประจำตัวประชาชนให้กลุ่มคนไร้บ้าน ณ โบสถ์เจอรัลด์ตัน ประเทศออสเตรเลีย โดยทางหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรการกุศลกล่าวว่า หากไม่มีเอกสารสำคัญดังกล่าว พวกเขาจะกลายเป็นบุคคลไร้สิทธิสถานะโดยทันที รวมถึงเกิดปัญหาในการเข้าอยู่อาศัยในสถานที่พักพิงด้วยเช่นกัน
